“อนุสรณ์” จี้ เยียวยาประชาชน ก่อนซื้ออาวุธ แนะเตรียมปลดล็อก อย่างปลอดภัย

0
1554

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างยานเกราะพร้อมอาวุธของกองทัพบก มูลค่า 4.5 พันล้านบาท ว่า ในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำไมกองทัพพยายามจัดซื้ออาวุธตลอดเวลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องมีคำตอบ จัดลำดับความสำคัญของปัญหาอย่างไร ในขณะที่การเยียวยาประชาชนล้มเหลว แต่จะจัดซื้อยานเกราะล้อยาง ถึง 50 คัน เป็นเงินสูงถึง 4,515 ล้านบาท จะแก้เกี้ยวว่าเป็นงบผูกพัน งบค้างท่อ ก็คงฟังยาก เพราะเอกสารเพิ่งจะอนุมัติในวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมานี้เอง ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลตัดงบประมาณซื้ออาวุธไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำไมไม่โอนงบประมาณมาช่วยเยียวยาประชาชน ถ้าไม่ซื้อยานเกราะล้อยาง 50 คัน 4,515 ล้านบาท จะสามารถเยียวยาประชาชนคนละ 5,000 บาท 3 เดือน ได้ 301,000 คน ประชาชนตั้งคำถามว่า ตกลงจะไว้วางใจกองทัพไม่ได้เลยหรือ เผลอไม่ได้ เผลอเป็นซื้ออาวุธ เมื่อคราวเรือยกพลขึ้นบก 6,100 ล้านบาท ก็โดนประชาชนตำหนิไปครั้งหนึ่งแล้ว พอเรื่องซา บวกกับสถานการณ์โควิดชุลมุน ก็สอดไส้ซื้อยานเกราะล้อยาง 4,515 ล้านบาท เข้ามาอีก

“กองทัพต้องตระหนักในการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาประเทศ การเยียวยาประชาชนควรเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการให้เกิดผลโดยเร็ว”นายอนุสรณ์ กล่าว

โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนถามถึงแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง เพราะถ้าจะรอให้ปลอดเชื้อหรือการแพร่ระบาดเป็นศูนย์ อาจต้องใช้วลาอีกเป็นปี รัฐบาลจะให้ประชาชนมารอรับการเยียวยา พึ่งพาเงินในกระเป๋าใบเดียวจากรัฐบาลทั้งประเทศไม่ได้ แม้จะขยายจาก 9 ล้านคนเป็น 14 ล้านคน ก็ยังไม่ถ้วนหน้า ไม่ทราบว่าจะมีหลักเกณฑ์ใดเพิ่มเข้ามาอีกหรือไม่ มีคนลงทะเบียน แล้วเข้าไม่ถึงสิทธิการเยียวยาอีกเกือบ 10 ล้านคน การเยียวยาที่เหลือจะดูแลอย่างไร ต้องไปถาม AI อีกไหม  จะอุทธรณ์ออนไลน์กันอีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่เงินเยียวยาบาทแรกจะถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึง จะผลัดไปถึงเมื่อไหร่ การปลดล็อกอย่างปลอดภัย เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางอย่างขับเคลื่อนได้ จึงเป็นแนวทาที่รัฐบาลต้องเตรียมการให้พร้อม ผลสัมฤทธิ์ของการรับมือกับวิกฤตโควิด ไม่ควรจำกัดอยู่แค่จำนวนผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิตที่เป็นศูนย์ ควรเก็บสถิติคนฆ่าตัวตาย คนอดตาย คนต้องมารับอาหารบริจาค อันเกิดจากการล็อกดาวน์เมืองด้วย ตราบที่ยังไม่มีวัคซีน รัฐบาลต้องบริหารจัดการสถานการณ์ จำกัดระดับความเสียหาย ประคับประคองประเทศอย่างมีสมดุลย์ เศรษฐกิจ สังคม และควบคุมการแพร่ระบาด ให้มากที่สุด

“รัฐบาลต้องเตรียมปลดล็อก อย่างปลอดภัย ประชาชนพร้อมกลับไปทำมาหากิน พร้อมออกไปทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี ปลอดโรค ปลอดภัย” นายอนุสรณ์ กล่าว