“ณัฐชา” จวกหนัก ประชาชนอาจไม่ตายด้วยโควิดแต่กำลังจะตายด้วยมาตราการเยียวยาเศรษฐกิจที่ห่วยแตกของรัฐบาล

0
1040

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน ในสถานการณ์ไวรัสโควิด 19ระบาด ทำให้เห็นสภาพความเป็นจริงว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนรอไม่ได้ แม้รัฐบาลจะมีมาตราการต่างๆออกมาแต่มาตราการเหล่านั้น เหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง อีกทั้งยังล่าช้าเปรียบเสมือนระเบิดเวลาผูกติดตัวพี่น้องประชาชน

หลังจากการออกมาตราการพักชำระธนาคารต่างๆที่กว่าจะได้รับสิทธิ์การพักชำระหนี้ มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก จนกินเวลาการชำระหนี้ไปอีก1เดือน จนกระทั่งวันนี้ ไฟแนนซ์ต่างๆ ออกมาตราการเยียวยาด้วยการให้ชำระดอกเบี้ยก่อนล่วงหน้า 3 เดือน
เพื่อหวังว่าจะได้ทุเลายอดหนี้รายเดือน แต่ไปเพิ่มยอดหนี้รวม ส่วนใครที่ค่าชำระค่างวดไปแล้ว ก่อนที่รัฐบาลจะมีมาตราการนี้ออกมา ก็หมดสิทธ์เข้ารับการเยียว ต้องให้สถานะหนี้เป็นปกติถึงจะมาเข้าโครงการพักหนี้ได้ ฟังแต่ละมาตราการแล้วเศร้าใจแทนประชาชน

และเมื่อพิจารณา มาตราการ Non-bank พักชำระประมาณ 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่ไม่มีค่างวดคงค้าง (เป็นลูกค้าปกติ)

  1. หากมีค่างวดค้างและค่าปรับอยู่ จะต้องเคลียค่าใช้จ่ายที่ค้างให้เป็นปกติก่อน
  2. จะคิดดอกเบี้ยเพิ่ม จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมด แต่ละที่มีเรทการคิดคำนวณไม่เหมือนกัน เรียกว่า “ดอกเบี้ยระหว่างการพักชำระ”
  3. ดอกเบี้ยพักชำระนี้ บางที่จะให้จ่ายก่อน แล้วถึงจะทำเรื่องพักชำระ หรือบางทีจะรวมยอดไว้ชำระทีหลังหรือตอนปิดบัญชีได้

ต่อมาคือมาตราการคืนเงินต่างๆเช่น ค่าน้ำค่าไฟ ก็ไม่เท่าเทียม ค่าน้ำ การประปานครหลวงได้ การประปาส่วนภูมิภาคไม่ได้
ส่วนมาตราการคืนค่ามิเตอร์ไฟ ปัญหาที่พบคือ เจ้าของบ้านหลายหลังได้รับเงินคือหลายมิเตอร์ เพราะขายบ้านแต่
คนจนหาเช้ากินค่ำ ซื้อบ้านมือ2 หรือเช่าบ้านอยู่ หมดสิทธิ์ได้ จะไปหวังมาตราการ ฟรี 90หน่วยแรกก็ยากเพราะค่าไฟพุ่งสูงเนื่องจากประชาชนต้องอยู่ รัฐบาลให้อยู่บ้าน หยุดเชื่อ เพื่อชาติ แล้วรัฐบาลมีมาตราการลดภาระรายจ่าย สาธารณูปโภคเหล่านี้หรือไม่

ส่วนผู้คนที่เหลือที่ยังตกหล่นยังไม่ทราบชะตากรรมว่าจะมีมาตราใดมาดูแล ทั้งที่ในวันที่เค้าทำงานได้เก็บภาษีเค้าอย่างถ้วนหน้า เจ้าของกิจการขนาดเล็ก sme. sml. เกษตรกรรายย่อยๆ แรงงานในระบบ ผู้อยู่รอดด้วยเบี้ยขยันและเงินล่วงเวลา กำลังเฝ้ารอผู้นำในประเทศที่เค้าเสียภาษี บริหารจัดการอย่างไรในสถานการณ์วิกฤตต่อชีวิตเช่นนี้ อย่าให้ประชาชนต้องตราหน้ารัฐบาลนี้ว่า “ สิ่งเดียวที่รัฐบาลทำได้อย่างเท่าเทียงคือความไม่เท่าเทียม “
จนถึงตอนนี้ไวรัส โควิด-19 เอาชีวิตคนไทยไปหลายชีวิต แต่หันกลับมามอง มาตราการต่างๆของรัฐบาลที่ สร้างความแตกแยก เพิ่มความเหลื่อมล่ำ เอาชีวิตคนไทยทางอ้อมไปแล้วกี่รายพวกเขาอาจไม่ตายด้วย
โควิด แต่จะตายด้วยเศรษฐกิจแล้วครับ นายณัฐชากล่าว