นายปิยวัฒน์ พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การเยียวยาประชาชนจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ไม่ทราบว่ารัฐบาลเอาตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบมาจากฐานข้อมูลไหน เพราะในความเป็นจริงมีหลายครอบครัวมีการประสบปัญหารายได้ แต่ไม่ผ่านการประเมินจากโครงการนี้หรือไม่ได้รับสิทธิในการได้รับเงินเยียวยา
ในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 รัฐบาลให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น คนที่เข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตก็จะได้ประโยชน์แต่ชาวบ้าน หรือ ประชาชนตามชนบทไม่ได้ประโยชน์ทั้งๆที่คนเหล่านี้ตกงานจากกรุงเทพ จากการปิดกิจการ ไม่ได้ขายของเพราะตลาดปิด ไม่มีรายได้ แต่เขากลับไม่ได้รับการเยียวยาจากมาตรการรัฐ
นายปิยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า จากมาตรการของรัฐที่ออกมาส่งผลให้ทุกภาคธุรกิจได้รับผลกระทบกันหนักมาก หลายบริษัทเลือกปิดกิจการ ปิดร้าน เพราะยิ่งเปิดนานต้นทุนเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นบรรดาเจ้าของกิจการเลือกหยุดดีกว่าที่จะเดินหน้าต่อ และจะส่งผลกระทบกับภาคแรงงานที่ต้องตกงานเป็นจำนวนมาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าตัวเลขคนตกงานในเดือนมิถุนายน จะมีคนตกงานทุกกลุ่มไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
“มาตรการที่ธนาคารต่างๆออกมา ถือว่าไม่ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ การให้ส่งแต่ดอกเบี้ยแต่เงินต้นไม่ลด ดังนั้นหากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบควรที่จะพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ระยะเวลานาน 6 เดือน เพื่อต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบการ หากไม่ทำอย่างนี้ผู้ประกอบธุรกิจไม่สามารถฟื้นได้อย่างแน่นอน และกระทบเศรษฐกิจไทยในภาพรวม หากไม่จัดหนักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าปี 63 ทั้งปี เศรษฐกิจประเทศไทยไม่มีทางฟื้น ”นายปิยะวัฒน์ กล่าว