วันที่ 13 เมษายน 2563 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ ออกมาสะท้อนการทำงานช่วยเหลือของรัฐบาลที่กำลังพยายามแต่ไม่ทันความลำบากของประชาชน เป็นจุดที่รัฐบาลต้องส่งคนทำงานที่เป็นทำงานเก่งส่งมาแก้ปัญหา ไม่ใช่หาแต่ลูกขุนพลอยพยักมาทำงานรอบกาย กลายเป็นจุดบอดทำให้การทำงานล่าช้าไม่ทันความเดือดร้อนประชาชน
นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า การที่รัฐบาลออกมาจัดการวิกฤติโควิด-19 เป็นเรื่องที่ดีซึ่งไม่ต้องมาอ้างว่าเป็นผลงานรัฐบาลเพราะความจริงมันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องประชาชนให้รอดพ้นจากภัยอันตราย และสิ่งสำคัญคือต้องช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากสภาพความทุกข์ร้อนประชาชนย่อมได้รับการเยียวยาและการช่วยเหลือจากรัฐบาล
“พลเอกประยุทธ์แทนที่จะใช้อำนาจเต็มขาดที่มีอยู่ภายใต้พรก.ฉุกเฉิน มาดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงทีควรออกคำสั่งดำเนินการเรื่องเงินเยียวยาเป็นรายบุคคลหรือเป็นรายครอบครัวไปเลย ป่านนี้เงินคงถึงมือประชาชนไปนานแล้ว ไม่ต้องมาแยกอาชีพให้มันวุ่นวายกว่าจะคัดกรองอาชีพคนจะตายกันก่อนไม่ทันความเดือดร้อนเวลาผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว ยังช่วยเหลือประชาชนไม่ตรงกับความเดือดร้อนจริง ทำไมต้องทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ตอนแจกเงินที่ไม่ใช่ยามที่ประชาชนเดือดร้อนทำไมกระทรวงการคลังภายใต้การกำกับดูแลของนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนนี้แจกเงินเก่งและคล่องมากแจกหลายรอบหลายเฟสก็ไม่เห็นมีปัญหาทั้งบัตรคนจนทั้งชิมชอปใช้ แต่ทำไมคราวแจกเงินเยียวยาความลำบากถึงแจกยากแจกเย็นตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีก บางคนเป็นช่างเสริมสวยก็กลายเป็นเกษตรกร คนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจัางก็กลายเป็นนักศึกษา คนขายของตลาดนัดที่ถูกปิดตลาดไปแล้วก็บอกว่ายังค้าขายได้ แต่คนให้ข้อมูลไม่ตรงความจริงกลับได้เงินเยียวยา ประสิทธืภาพการช่วยเหลือประชาชนอยู่ที่ตรงไหน ในยามลำบากแบบนี้ต้องระดมมหาเศรษฐีของเมืองไทยนำข้าวสารอาหารแห้ง ไข่ แจกประชาชนทุกครัวเรือนควบคู่กับหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ ป้องกันโรคต้องตฃควบคู่กับช่วยเหลือปากท้อง รัฐบาลสั่งปิดการทำงานหาเงินแต่ไม่ช่วยเหลือเรื่องรายได้ให้ประชาชน เวลาปิดปิดทุกอาชีพแต่เวลาจ่ายเงินเยียวยากลับเลือกอาชีพให้รัฐบาลบอกกำลังจะช่วย แต่ประชาชนบอกกำลังจะตาย
“แลัวแทนที่พลเอกประยุทธ์จะประชุมสั่งการแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ทันความเดือดร้อนกลับมีบรรดาลูกขุนพลอยพยักมานั่งมายืนแก้ต่างให้ เอาคนต้นทุนต่ำมาพูดแทนพรรค พรรคก็ต่ำตามต้นทุนคนพูด พอมีใครชี้แนะควรแนะนำให้รัฐบาลทำงาน ทำไมนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีถึงพูดข่มขู่ประชาชน ว่าใครออกมาวิจารณ์รัฐบาลมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 ซึ่งตามกฎหมายมาตรานี้มีไว้เพื่อเอาผิดการดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่กระทำการตามหน้าที่ไม่ใช่รัฐบาล การออกมาแบบนี้เท่ากับเป็นการข่มขู่ประชาชนไม่ให้ออกมาวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลก็ออกมาบอกว่าไม่เคยข่มขู่ อย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรูเลยค่ะ ก่อนหน้านี้นายธนกร หวังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐก็เคยออกมายืนยัน แต่ตอนนี้คงละอายใจไม่กล้าออกมาพูดแล้ว เพราะยิ่งพูดยิ่งเสีย เพราะคนในพรรคกลับพูดตรงข้าม ตอนนี้เอาประชาชนมาก่อน อย่าปล่อยให้ประชาชนต้องตายก่อนเพราะไม่มีข้าวกิน อดตาย ถึงขั้นมีคนบอกว่า สั่งปิดอะไรปิดได้อย่าสั่งปิดโรงจำนำ มาถึงขั้นนี้มันก็หนักพอที่จะรู้ว่าประชาชนกำลังเผชิญสภาวะไม่มีจะกิน ไม่มีงานทำแล้วจะเอาอะไรกิน
“คนรอบตัวพลเอกประยุทธ์ และ พปชรออกมาโต้กลับประชาชนที่ออกมาแนะนำแทนที่จะเอาไปแก้ไขข้อบกพร่องคนรอบข้างจึงเป็นเพียงลูกขุนพลอยพยัก ท่านจึงไม่เคยมองเห็นความจริงว่าสิ่งที่ประชวชนเผชิญอยู่คืออะไร เพราะมีแต่คนบอกว่าเยี่ยม บอกว่าดี ไม่มีอะไรสะท้อนสิ่งใหม่สิ่งที่สามารถทำได้จริง อะไรที่ไม่ดีอะไรควรแก้ไข คนที่อยู่ข้างกายมีแต่พลอยพยักตามก็จะไม่เห็นสิ่งที่เป็นความจริง
“อยากให้พลเอกประยุทธ์ออกมาชี้แจงว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์พูดอะไรไม่ตรงความจริงบ้าง เพราะสิ่งที่นายพิชัยสะท้อนออกมาเป็นเสียงสะท้อนจริงจากประชาชนที่เดือดร้อนกันอยู่ เศรษฐกิจที่แท้จริงก็เป็นแบบที่นายพิชัยออกมาเตือน วันนี้ก็ยังไม่สายเอาข้อเสนอแนะที่จับต้องได้จริงมาลองแก้ไขปฏิบัติมองประชาชนเป็นหลัก ช่วยประชาชนได้ทันความเดือดร้อนเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
ฝากกลอนสอนใจ โบร่ำโบราณเอาไว้ เตือนใจพลเอกประยุทธ์
ถ้ารอบกายรายล้อมขุนพลอยพยัก
คนเป็นนายก็มักระเริงหลง
คิดการณ์อันใดไม่พะวง
เพราะมีคนชูธงอยู่ข้างกาย
ถูกผิดอย่างไรไม่รับรู้
ข้างกายมีลูกคู่คอยรำร่าย
มีวจี “ดีครับผมเหมาะสมครับนาย”
ไม่รู้ต้นชนปลายร้ายหรือดี
ไม่มีการทักท้วงให้ทวนทบ
นายจะบวกหรือลบไม่รู้ที่
มีแต่คำชะเลียร์ไม่รอรี
นายเกษมเปรมปรีดิ์คำยกยอ
ฉายภาพให้เห็นความเป็นจริง
คำทักทานท้วงติงต้องสานก่อ
อย่าให้ขุนพลอยพยักคอยถักทอ
อย่าหลงคำสอพลอที่ล่อลวง
เป็น “นาย” ให้หูหนักให้ปากเบา
ให้รู้เขารู้เราทุกโซ่ห่วง
รอบกายให้กล้าห้ามกลัาถามทวง
พวกขุนหลวงพลอยพยัก ผลักให้ไกล
นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย