***”ธนาธร” เกาะติดฝุ่นควันพิษ – พบค่า PM2.5 – AQI มีแนวโน้มสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 6 เมษายน คณะก้าวหน้า โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันจัดรายการพิเศษ “สถานการณ์ไฟป่า” ผ่านช่องทางเพจคณะก้าวหน้าสื่อสารถึงพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งขอความร่วมมือเกี่ยการช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันพิษ ซึ่งเป็นปัญหาที่ร้ายแรง โดย นายธนาธร ระบุว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ตระหนักถึงเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือโควิท-19 แต่ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งสำคัญสำหรับประชาชนในแถบภาคเหนือตอนบน นั่นคือปัญหาฝุ่นควันพิษ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน คุณกุลธิดาได้ลงพื้นที่จึงทำให้เกิดความคิดที่จะอยากช่วยเหลือ พ่อแม่พี่น้องประชาชนในภาคเหนือ เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพชีวิต เกี่ยวกับเรื่องคุณภาพของอาหาร
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ถ้าเราดูตัวเลขหนึ่งที่ใช้วัดคุณภาพอากาศเหมือนกันนั่นคือ ค่า AQI ซึ่งไม่ได้วัดเฉพาะฝุ่น PM 2.5 แต่ยังวัดมลพิษที่อยู่ในอากาศประเภทอื่นเข้าไปด้วย มาตรฐานองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ค่า AQI ควรจะอยู่ที่ 25 โดยในประเทศไทยตั้งค่ามาตรฐานไว้ควรจะต่ำกว่า 50 ซึ่งระหว่างที่ตัวเลข 50-100 อาจจะส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน 100-200 ผลกระทบจะรุนแรงขึ้น มากกว่า 200 นับได้ว่าเข้าขั้นวิกฤต แต่ที่ ต.เมืองคองอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ย้อนหลังกลับไปหนึ่งสัปดาห์ เราจะเห็นว่าค่า AQI เกินกว่า 200 ไปไกลมาก และไม่ใช่ที่จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น สถานการณ์เช่นเดียวกันนี้ เกิดขึ้นในจังหวัดอื่นของภาคเหนือตอนบนอีกด้วย อย่างเช่นที่ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ในสัปดาห์ที่แล้วค่า AQI อยู่ที่ 207 แล้วค่อยๆไต่ระดับเพิ่มขึ้น จนถึงวันที่ 2 เมษายน ค่า AQI อยู่ที่ 355 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดังนั้น ไม่ว่าจะวัดตัว PM2.5 หรือ AQI ตัวเลขอยู่ในระดับที่น่ากังวลทั้งสิ้น ซึ่งอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายขั้นวิกฤต กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณจังหวัดภาคเหนือตอนบน
*** “คณะก้าวหน้า” ผนึกเอกชนผลิตเครื่องกรองอากาศแจก ปชช.พื้นที่วิกฤต
นายธนาธร กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ไม่ได้มาพูดถึงปัญหาอย่างเดียว แต่พวกเราอยากใช้ความรู้ความสามารถ เครือข่ายและทรัพยากรที่มีเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นพิษ วันนี้ทางคณะก้าวหน้า ร่วมมือกับมูลนิธิไทยซัมมิทพัฒนา และบริษัทเอกชนอีก 2 ราย ผลิตเครื่องกรองอากาศ ที่มีชื่อรุ่นว่า PM 001 โดยย่อมาจาก Progressive Movement 001 ซึ่งเป็นชื่อภาษาอังกฤษของคณะก้าวหน้า โดยเป็นการผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบกับปัญหาฝุ่นพิษในครั้งนี้ ทั้งนี้ ท่านที่อยู่ใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน สามารถส่งข้อความทาง inbox ทาง facebook ของเพจคณะก้าวหน้า เพื่อขอรับเครื่องกรองอากาศ PM 001 โดยพวกเราจะใช้อาสาสมัครประมาณ 200 คนช่วยกันแจกจ่าย เครื่อง PM 001 จำนวน 800 เครื่องนี้ เป็นการดำเนินการในขั้นแรก ซึ่งตนมีความมุ่งหวังว่าจะแจกจ่ายให้หมดภายในก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือวันที่ 13 เมษายน ที่จะถึงนี้ โดยในการจัดส่งนั้นจะใช้อาสาสมัครของคณะก้าวหน้าในการจัดส่งสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมารับเองได้
“เราจะมอบเครื่องกรองอากาศนี้ให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ที่มีคุณสมบัติต่างๆ คือ 1.อยู่ในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน น่าน ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และจังหวัดแพร่โดยพื้นที่ที่อาศัยอยู่นั้นมีค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับอันตราย เกิน 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรอย่างต่อเนื่อง2.ครอบครัวหรือครัวเรือน ที่สามารถขอเครื่องนี้ได้ ขอให้เป็นบ้านที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือเป็นบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง ที่มีปัญหาทางเดินหายใจเรื้อรัง หรือประชากรกลุ่มสุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือหญิงตั้งครรภ์ โดยเราจะให้น้ำหนักไปที่กลุ่มผู้มีปัญหาทางเดินหายใจเรื้อรังก่อน” นายธนาธร กล่าว
***ผู้มีทุนทรัพย์ร่วมบริจาค- ผลิตเครื่องกรองอากาศล็อตต่อไปช่วย ปชช.ได้
นายธนาธร กล่าวอีกว่า เครื่องกรองอากาศ 800 เครื่องตัวนี้ เป็นความตั้งใจของพวกเราคณะก้าวหน้า พี่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้อง ที่ประสบปัญหาฝุ่นพิษ ที่เกิดจากไฟป่า ที่เกิดจากการเผาป่าในภาคเหนือตอนบน สำหรับพ่อแม่พี่น้องที่มีทุนทรัพย์อยู่บ้าง หากฟังคลิปนี้แล้วอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ สามารถติดต่อพวกเรามาทาง inbox ได้เช่นเดียวกัน จำนวนเงินที่ได้รับจากการสนับสนุน เราจะไปผลิตเครื่องนี้ตามที่ท่านได้ให้พวกเรามาและจะจัดส่งไปให้ถึงมือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะจากข้อมูลที่คุณกุลธิดามีอยู่ เฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจถึง 20,000 คน ในภาคเหนือตอนบน นี่ยังไม่นับรวมถึงเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสตรีตั้งครรภ์ ดังนั้น ความต้องการในการใช้งานจริงๆ ยังมีอีกมาก ซึ่งเครื่องนี้อาจจะบรรเทาอาการ หรือลดความเสี่ยงโรคที่เกิดจากฝุ่นพิษ ไม่มากก็น้อย
***”กุลธิดา” หวั่นภัยแล้งอาจส่งผลเผชิญวิกฤตนานขึ้น – จี้ดูแล ปชช. 4 กลุ่มเสี่ยง
ด้าน กุลธิดา กล่าวว่า เรื่องนี้ฝุ่นควันพิษนี้ไม่ใช่เป็นเกิดขึ้นแค่วันนี้ ปีนี้เท่านั้น ฝุ่นควัน ไฟป่าในภาคเหนือตอนบน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว และจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ คนในพื้นที่เล่าให้ตนฟังว่า เมื่อก่อนอาจจะมาทุกๆช่วงต้นปี แต่ในวิกฤตครั้งนี้ เริ่มต้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีระยะเวลาความรุนแรงของสถานการณ์นานขึ้น อีกทั้งยังมีการประเมินเอาไว้ว่า หากเดือนเมษายนเริ่มมีฝนเข้ามาแล้ว ก็อาจบรรเทาสถานการณ์นี้ได้บ้าง แต่ถ้าสถานการณ์ภัยแล้งเข้ามาเป็นอีกหนึ่งปัจจัย นั่นหมายความว่าผู้คนในภาคเหนืออาจจะต้องเจอกับสถานการณ์ฝุ่นควันพิษนี้ ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม
“คนกลุ่มแรกที่จะได้รับผลกระทบแน่นอนก็คือเด็กเล็ก และจะได้รับผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากว่าอาจจะทำให้เด็กเล็กมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อื่น กลุ่มที่สองก็คือ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เมื่อหญิงตั้งครรภ์อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเป็นระยะเวลานาน ก็อาจจะทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ ซึ่งก็อาจจะเป็นอันตรายได้เช่นเดียวกัน ส่วนกลุ่มที่สาม ก็จะเป็นกลุ่มของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว อย่างเช่นโรคทางเดินหายใจต่างๆ ก็จะทำให้เกิดปัญหา โรคประจำตัวอื่นๆตามมา ส่วนกลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มผู้คนที่มีโรคประจำตัวอย่างเช่นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ฝุ่นก็จะทำให้ไปกระตุ้นการอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งจะทำให้เกิดโรคเลือดต่างๆตามมา ดังนั้นจะเห็นว่ามีกลุ่มคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหลากหลายกลุ่ม ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ต้องการการดูแลอย่างทันท่วงที” น.ส.กุลธิดา กล่าว