“ตรีชฎา” สวน “ธนกร” ทำหน้าที่โฆษกดีจนไม่ลืมหูลืมตา มัวแต่ออกมาโต้ “พิชัย” โดยไม่สนใจโลกความเป็นจริง ประชาชนลำบากหนักรัฐต้องรีบจัดการด่วน

0
1956

วันที่ 28 มีนาคม 2563   นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ ออกมาซัดนายธนกร หวังบุญชนะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังปมนายธนกรออกมาพาดพิงถึงนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซึ่งหวังดีออกมาเตือนเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ผิดหัวผิดหางของฝ่ายรัฐบาล ว่า นาย ธนกร เป็นถึงเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและยังเป็นโฆษกของพรรครัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ แต่กลับออกมาด่าแบบมั่วๆ เหมือนคนไม่มีต้นทุนทางสังคมอีกแล้ว คิดเพียงแค่มีหน้าที่จะโต้กลับฝ่ายตรงข้ามเหมือนหุ่นยนต์ใส่กลไกโต้ตอบไว้กลไกเดียว ถ้านายธนกรกลับไปอ่านคำแนะนะของนายพิชัยให้ซึ้งทำความเข้าใจให้ถึงจะเข้าใจถ่องแท้

“ แถมการโต้นายพิชัยไม่มีเหตุผลอะไรมารองรับ ตัวนายธนกรก็ไม่ได้บอกเลยว่านายพิชัย พูดผิดตรงไหน ยกตัวอย่างมาซักข้อไม่มี มีแต่คิดและท่องว่านายพิชัยหวังโจมตีรัฐบาล เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ผ่านมาตั้งหลายปีสิ่งที่นายพิชัยเตือนถูกทุกข้อ ถ้าฟังแล้วทำตามป่านนี้คนไทยก็ไม่ต้องมาทนกับภาวะเศรษฐกิจขาลงขนาดนี้ เวลานี้รัฐต้องคิดหาวิธีช่วยประชาชนให้ทันความลำบากของประชาชน ลองถามประชาชนดูจะรู้เลยว่า ตอนนี้คนกลัวโรคโควิต-19 มาถึงมากที่สุด แต่คนกลัวอดตายไม่มีจะกินมากกว่า เพราะกว่าภัยโควิต-19 จะมาถึงตัว ภัยไม่มีจะกินมันมาเยือนถึงตัวก่อนรัฐบาลและทีมงานต้องแก้ปัญหาควบคู่กันไปให้ได้ ทุกวันนี้รัฐบาลมีมาตรการแต่ไม่มีอะไรออกมารองรับ ยกตัวอย่างการแจกเงิน 5000 บาท บอกให้ประชาชนอยู่บ้านลงทะเบียนผ่านออนไลน์เปิดวันแรกล่ม มีกี่ระบบก็ล่มทุกระบบเพราะจำนวนคนเดือดร้อนหลายสิบล้านคน การจัดการไม่มีการวางแผนรองรับให้พอกับคนเดือดร้อน ภาพที่เห็นจึงมีแห่ไปล้นธนาคาร มีกี่ธนาคารก็ล้น เพราะมาตรการการแก้ปัญหาไม่พร้อมไม่ทันใจคนเดือดร้อน จนบางคนถึงขั้นไปกู้เงินนอกระบบเพราะไม่รอเงินไม่ไหว ทั้งหมดขาดการวางแผนล่วงหน้าที่ดี เพราะไม่ยอมฟังคนเตือน มีแต่คิดว่าเค้าเห็นต่างอย่างเดียว

“ถ้ารัฐบาล ยังคงปิดกั้นการรับฟัง พอใครวิจารณ์ก็จะปิดหูปิดตาตัวเองตลอด  พอปัญหามาเยือนแบบจวนตัวแก้ไม่ทันการณ์  รัฐบาลควรเปิดใจกว้างรับฟังตั้งแต่แรก จะได้รับรู้ได้ว่านายพิชัย เป็นห่วงประเทศและประชาชนแค่ไหน และได้เสนอแนะแนวทางการแก้เศรษฐกิจ การแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ของไวรัส ไว้อย่างไร อยากให้นายธนกรและรัฐบาลกลับไปย้อนอ่านจะได้นำไปปรับปรุงการทำงาน ลองไปย้อนอ่านแล้วเอามาทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนตอนนี้ประชาชนก็จะไม่เดือดร้อนทั้งประเทศแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น นายพิชัย เสนอให้ ลดดอกเบี้ย 0% และ ออกซอฟท์โลน500,000 ล้านบาทที่ 0% แล้ว รัฐบาลก็ให้ ธนาคารออมสินออกซอฟท์โลน 150,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าไม่พอ นายพิชัยเสนอให้ใช้นโยบายการเงิน ควบคู่กับนโยบายการคลัง เพื่อลดภาระของรัฐบาล และช่วยประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพนายพิชัย เสนอให้รัฐบาลระวังการใช้จ่ายอย่ามัวแต่แจกเรื่องไม่จำเป็นเพราะสถานการณ์อาจลากยาวถึงจุดจำเป็นที่ต้องนำเงินมาช่วยเหลือประชาชนรัฐบาลต้องช่วยคนลำบากก่อน 

“ที่สำคัญนายพิชัย ยังเตือนประชาชนตลอด 5 ปี ว่าให้ระวังภาวะเศรษฐกิจที่จะย่ำแย่ ซึ่งถ้าใครเชื่อนายพิชัยและระวังตัว ก็ไม่เจ็บตัวทางเศรษฐกิจ คนระวังตัวทันมันก็จะไปพังกันขนาดนี้ ยิ่งการปล่อยคนกลับบ้านก่อนหน้านี้ทำให้สถิติการติดเชื้อยิ่งบานปลาย จำนวนผู้ติดเชื้อขยายตัวเร็วมาก มาตรการที่รัฐบาลนำมาแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจควรจะประกาศก่อนที่จะประกาศปิดทุกอย่างในวันนี้

“การเตรียมความพร้อมด้วยการมองสถานการณ์ล่วงหน้าเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรมี นายธนกร ออกมาต่อว่าหาว่านายพิชัย อิจฉารัฐบาล เรื่อง ชิม ช้อป ใช้ แล้วตอนนี้ รัฐบาล น่าจะสำนึกแล้วว่า ชิมช้อปใช้ เป็นการใช้เงิน อย่างเปล่าประโยชน์ ควรนำมาช่วยประชาชนใน ตอนนี้มากกว่า เงินที่มีต้องนำมาแจกในยามประชาชนเดือดร้อนตกงานและช่วยให้ทันท่วงที ทันเวลา ตอนนี้การลงทะเบียนเวบไซต์ล่มหลายรอบ แถมยังมีการตั้งเงื่อนไขยุ่งยากวุ่นวาย คนเดือดร้อนกับการช่วยเหลือของรัฐบาลต้องทันทีอย่าให้ประชาชนที่เดือดร้อนอยู่แล้วต้องเดือดร้อนอีก ประชาชนทุกข์ร้อนสาหัสต้องผ่อนร้อนให้เบาไม่ใช่เพิ่มร้อน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผ่านกระทรวงการคลัง สำนักงานประกันสังคม และกระทรวงแรงงาน ต้องช่วยประชาชนให้เท่าเทียมอย่าให้มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากจนประชาชนเข้าถึงการช่วยเหลือที่ยากลำบากไปจะทำให้การแก้ปัญหาช้า เรื่องการแก้ปัญหาการผ่อนชำระหนี้ทางธนาคารสำหรับผู้ประกอบการและลูกหนี้บ้านรถทุกกรณีต้องออกเป็นเงื่อนไขให้ชัดเจนโดยที่ประชาชนไม่ต้องเป็นฝ่ายไปติดต่อธนาคาร รัฐบาลควรประกาศเป็นคำสั่งไปเลยว่าให้งดดอกเบี้ยและเงินต้นเป็นเวลาเท่าไหร่ ลดเวลาในการติดต่อผ่านธนาคารเลี่ยงการที่คนจะต้องไปธนาคารหรือติดตามผ่านออนไลน์ซึ่งยุ่งยากและติดต่อยาก ออกประกาศเป็นทางการไปเลยลดปัญหา ทำอะไรที่ยากๆให้มันง่ายๆ ถ้ารัฐบาลวางระบบและพูดความจริงกับประชาชนตั้งแต่ต้นทุกคนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ทันจะไม่วิกฤติแบบนี้ คือ เจ็บแต่จบ มายามนี้หลายคนส่งเสียงว่า เจ็บไม่จบแถมยังเจ็บนี้อีกนานยาวนานกู้คืนลำบาก    

“นายธนากรน่าจะไปติดตามการแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจช่วยรัฐบาลดีกว่าจะมาโต้ตอยนายพิชัยตามโปรแกรมย้อนไปฟังระดับรองนายกฯในรัฐบาล อย่างนายสมคิด จตุศรีพิทักษ์ อดีตคนดูแลเศรษฐกิจที่เคยออกมาพูดว่าปี 61 คนจนจะหมดจากประเทศไทย นี่ปี63 แล้วคนจนมีท่าจะหมดจากประเทศไทยจริงๆ คือ จะตายกันหมด ยังไม่พอนายสมคิดเพิ่งอออกมายอมรับ ว่า วิกฤติเศรษฐกิจไทยหนักกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง และต้องยอมรับว่าหนักไม่ต้องสนใจว่าจีดีพีไทยปีนี้จะลบเท่าไหร่เพราะลบกันทั้งโลก แล้วแถมยังบอกว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF พร้อมช่วยเหลือไทยจากด้วยการให้เงินฟื้นเศรษฐกิจจากโควิตอีก แล้วที่นายพิชัยออกมาเตือนเรื่องเศรษฐกิจว่าตกๆๆๆ นายสมคิดออกมาเถียงเสียงแข็งทำไมว่าไทยยังดีอยู่มาวันนี้มายอมรับ ซ้ำยังมีทีท่าอยากจะกู้เงินIMF ซะด้วย อย่าลืมคนชื่อ “ทักษิณ” มาแก้ปัญหาใช้หนี้IMF ให้กับคนไทยไปแล้ว อย่าได้คิดเชียวเท่านี้คนไทยยังลำบากกันไม่พอหรือ เอาเป็นว่าเอาเวลาที่มีอยู่และมีอำนาจไปช่วยเหลือประชาชนและรับฟังแนวคิดของคนอื่นที่อยู่นอกรัฐบาลบ้าง เผื่อจะช่วยเหลือประชาชนให้รอดจากวิกฤตินี้ หยุดวางภารกิจอย่าห่วงตำแหน่งแล้วคิดแก้ปัญหาอย่าปล่อยให้ประชาชนต้องตายก่อน แก้ให้ถูกทางหนทางรอดยังมี คิดช้าทำช้าตายกันหมด” นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย