นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า การที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงเวลานี้ถามว่าเหมาะสมหรือไม่คงตอบยาก เพราะพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีไว้ในการประกาศเพื่อรักษาความสงบของประเทศเมื่อเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย แต่กรณีนี้คือเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ พลเอกประยุทธ์ควรประกาศมาตรการเป็นมติครม.จะเหมาะสมกว่า เพราะจะได้รับผิดชอบร่วม
การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เห็นชัดเจนว่าพลเอกประยุทธ์ต้องการรวบอำนาจเองไว้ทั้งหมด กรณีครั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช.เข้ายึดอำนาจบริหารประเทศ ครั้งนั้นพลเอกประยุทธ์มีอำนาจมากกว่านี้ยังไม่สามารถบริหารจัดการได้ ครั้งนี้ก็เช่นกันหวั่นใจว่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจึงไม่ได้เป็นคำตอบที่ถูกต้องเสมอไป ทั้งนี้หากรัฐมีการบริหารจัดการที่ดี ก็ที่สามารถพาประเทศฝ่าวิกฤติได้ สำคัญที่สุดคือคนที่แถลงข่าวเพื่อบอกประชาชนต้องให้คนที่พูดรู้เรื่องมาแถลง อย่าพูดแบบพลเอกประยุทธ์เพราะฟังไม่รู้เรื่อง
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้กรณีที่รัฐบาลเตรียมจะออกพระราชบัญญัติกู้เงิน หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน ประมาณ 500,000 ล้านบาท ต้องระมัดระวัง ดังนั้นก่อนที่จะออกพ.ร.บ.เงินกู้อยากให้พลเอกประยุทธ์ไปบริหารจัดการงบประมาณปี 2563 ให้ได้ก่อน ไม่ได้ห้ามไม่ให้กู้เงินแต่ขอเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะการจัดทำงบประมาณปี 2563 มีการกู้เงินมาอุดหนุนงบประมาณเป็นจำนวนมากแล้ว
“รัฐบาลควรเลือกที่จะตัดงบประมาณที่เป็นไขมัน อาทิ การจัดซื้อเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ3ไว้ก่อน ตัดงบซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เพราะเราไม่ได้ไปรบกับใครก็ยังไม่มีความจำเป็น รวมทั้งชะลอโครงการที่ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อนำเงินส่วนนั้นมาช่วยเหลือประชาชนที่มีความจำเป็นในการใช้เงินในช่วงนี้ ยืนยันว่าเงินมีแน่นอน ขึ้นอยู่กับบริหารจัดการ ต่อให้มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็แก้ไม่ได้ เพราะการบริหารจัดการของรัฐบาลมั่วไปหมด ปัญหาของการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่สำเร็จก็มาจากการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิ์ภาพ”นายสมคิดกล่าว