นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ในพื้นที่จัดหวัดเชียงใหม่ไม่ต่างจากเมืองร้าง เพราะรับวิกฤติทุกอย่างทั้งปัญหาฝุ่นพิษ P.M. 2.5 ที่กลับมารุนแรงติดอันดับโลกอีกครั้ง ไม่นับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยทุกอย่างหยุดหมด ตอนนี้ทุกคนหวาดระแวงไปหมด ธุรกิจล้มหายตายจาก ไม่ก็ปิดกิจการ คนตกงาน ปัญหาอื่นตามมาแน่นอน ทั้งปัญหาอาชญากรรมและปัญหายาเสพติดระบาดหนักแน่ในอนาคต หากรัฐไม่เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา
ในสภาพปัจจุบันชาวเชียงใหม่ต้องเอาตัวรอด หรือหาทางรอดเอง ทั้งอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย หรือ เจลล้างมือ หรือ การหาอะไรทำเพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋า เพราะไม่สามารถพึ่งพาหน่วยงานรัฐได้ ทุกคนต้องหาทางเอาตัวเองให้รอด ซึ่งเชียงใหม่เผชิญวิกฤติทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านสุขภาพอนามัย ถือว่าหนักมากที่สุดจากหลายปีที่ผ่านมาในอดีต ดังนั้นใครที่สามารถเอาตัวรอดจากสภาพเช่นนี้ได้ต้องยอมรับว่านี่คือผู้รอดตายอย่างแท้จริง
นายจักรพล กล่าวด้วยว่า จากการเชิญหน่วยงานภาครัฐมาหารือ พบว่าหน่วยงานภาครัฐไม่มีการเตรียมการในการรับมือวิกฤติที่เกิดขึ้น รวมทั้งการวางแผนงานในระยะยาว ว่าจะทำอย่างไร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ท.ท.ท.ไม่มีการเตรียมการในการฟื้นการท่องเที่ยว เพื่อดึงเงินไหลเข้าประเทศ รัฐบาลไม่ดูแลและไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่กับใช้นโยบายทอดทิ้งไทย ให้เอกชนแก้ปัญหากันเอาเอง“ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เลือกที่จะทิ้งประชาชนให้เผชิญปัญหาที่เกิดขึ้นเอง ทิ้งเมืองเชียงใหม่เข้าสู่หายนะเต็มรูปแบบ รัฐบาลทิ้งปัญหาทุกอย่างไว้ไม่ให้ความสนใจ ที่เป็นเช่นนี้เพราะรัฐรู้ว่าทำไม่ได้เลยไม่ทำเลย น่าเจ็บใจคือพลเอกประยุทธ์เลือกที่จะรักษาตัวเองและคณะรัฐมนตรี โดยทิ้งประชาชนให้เผชิญชะตากรรม ทั้งๆที่เป็นรัฐบาลต้องช่วยเหลือประชาชน แต่รัฐบาลนี้กลับเลือกทิ้งประชาชนให้สู้กับปัญหามลภาวะเป็นพิษโดยลำพัง สุดท้ายประชาชนตายกันหมดแน่”นายจักรพล กล่าว
