ร.ท. หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไหนพรรคร่วมรัฐบาลบอกว่า สส. พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ประท้วงแบบพร่ำเพรื่อ แต่ก็เห็น สส. พรรคพลังประชารัฐ ผลัดกันลุกขึ้นประท้วง ทั้ง ๆ ที่ ไม่มีเหตุผลอันสมควร โดยมุ่งก่อกวนสมาธิในการอภิปรายของ นาย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ด้วยการจ้องจับผิดที่ นาย ยุทธพงศ์ ใช้สรรพนามเรียก นายกฯ ว่า “คุณ” และพยายามบังคับให้ นาย ยุทธพงศ์ เรียก นายกฯ ว่า พลเอก ทั้ง ๆ ที่ ไม่ใช่สาระสำคัญของการอภิปราย แต่ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ กลับพูดจาวนเวียนซ้ำซากเรื่องยศไม่จบเสียที สะท้อนให้เห็นว่า องครักษ์พิทักษ์นายก เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ และเป็นการทำตัวเจ้ายศเจ้าอย่างผิดที่ ผิดเวลา เพราะขณะนี้ สังคมกำลังรอฟังข้อเท็จจริงว่านายกฯ ร่ำรวยผิดปกติจริงหรือไม่จริง นี่จึงไม่ใช่เวลาที่จะเอายศถาบรรดาศักดิ์มาโอ้อวด แต่ท่านต้องเอาหลักฐานมายืนยันว่าไม่ได้โกงกิน และอันที่จริงแล้ว ในการประเมินการทำงานของนายกฯ นั้น ควรต้องมองข้ามยศถาบรรดาศักดิ์ของท่านด้วย การอภิปรายจึงจะมีความตรงไปตรงมาและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมสูงสุด เพราะยศกับพฤติกรรมเป็นคนละเรื่องกัน อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ เคยได้ยินหรือไม่คำโบราณที่ว่า “ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว”
แต่สงสัยรัฐบาลจะไม่มีข้อมูลมาหักล้างข้อกล่าวหา เลยมุ่งทำลายสมาธิในการอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นหลัก
นอกจากนี้ ในระหว่างลุกขึ้นประท้วง ส.ส. พรรคพลังประชารัฐยังถือโอกาสพูดแก้ตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้ง ๆ ที่ การชี้แจง เป็นหน้าที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้ถูกอภิปรายเท่านั้น ทำไม ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ต้องปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ เกินกว่าเหตุ ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ใช่เด็กอมมือและทำงานมาจนอายุปูนนี้แล้ว ก็น่าจะมีสติปัญญาชี้แจงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเองได้ว่าร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ไหนบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกฯไม่ใช่เหรอ ซึ่งก็ยังดีที่ นาย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรห้ามปรามไว้ทัน แต่ก็ทำให้เสียเวลาของสภา และทำให้ประชาชนที่ชมการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรู้สึกหงุดหงิด เพราะการอภิปรายขาดความต่อเนื่อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยหวังว่าการอภิปรายในวันถัด ๆ ไป ที่เหลืออยู่นั้น พรรคพลังประชารัฐจะควบคุม ส.ส. ไม่ให้ลุกขึ้นประท้วงแบบพร่ำเพรื่อหรือพูดจาเลอะเทอะจนทำให้เสียเวลาของสภา และทำให้ประชาชนฟังการอภิปรายไม่ราบรื่นหรือไม่ต่อเนื่อง.