น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 เกิดขึ้นจากปัญหาการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่การเล่นการเมืองของฝ่ายค้านที่นำเรื่องดังกล่าวมาตรวจสอบอย่างที่มีความพยายามบิดเบือนกัน
ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำรัฐบาล รวมทั้งหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลที่ลูกพรรคตัวเองเสียบบัตรแทนกัน จะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ โดยจะต้องตรวจสอบและมีมาตรการลงโทษขั้นเด็ดขาดกับ ส.ส.ที่โดดประชุมและทิ้งบัตรไว้ให้คนอื่นลงคะแนนแทน จนกลายเป็นการ “ชัตดาวน์งบฯ 63” อยู่ในขณะนี้
“ถ้าเรื่องแค่นี้ ผู้นำทั้ง 2 พรรคตรวจสอบไม่ได้ว่าใครเป็นคนเสียบบัตรแทน ส.ส.ที่โดดประชุม อาจหมายถึงการสมรู้ร่วมคิดหรือเข้าข่ายช่วยกันปกปิดความจริง แล้วอย่างนี้ประชาชนจะไว้ใจให้บริหารประเทศต่อไปได้อย่างไร ” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ ยังฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ด้วยว่า ควรแสดงภาวะผู้นำในการตรวจสอบและแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจังหลังจากประชาชนผิดหวังในทุก ๆ เรื่องมาแล้ว ซึ่งการใช้งบประมาณปี 2563 จะล่าช้าออกไปแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการกล้าตัดสินใจของผู้นำ แต่หากยังล่าช้าออกไปเรื่อย ๆ ก็จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจจนอาจผงกหัวไม่ขึ้น
“หากงบปี 63 จะต้องล่าช้าออกไปอีก 2-3 เดือน รัฐบาลก็ควรเปิดเผยแผนสำรองออกมาให้ชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นใจโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบลงทุน หากไม่มีงบฯลงทุนใหม่ ก็จะกระทบกับแผนการลงทุน ซึ่งเป็นความหวังเดียวที่ยังเหลือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังจากการส่งออกและการท่องเที่ยวอาจต้องดับเกือบสนิทจากปัญหาค่าเงินบาทและไวรัสโคโรน่า” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว