คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ลงพื้นที่ 6 จุด ทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดขอนแก่น ที่เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ คณะกรรมการฯ ได้ติดตามสภาพปัญหาภัยแล้ง และรับเรื่องราวร้องทุกข์ จากประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไข นำโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย และคณะกรรมการฯ ร้อยตำรวจเอกนิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายสุพจน์ อาวาสโฆษกพรรคประชาชาติ นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ และนายธิติพงศ์ หมื่นล้านโฆษกพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมกันลงพื้นที่ที่เขื่อนลำปาว คณะกรรมการฯ ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชลประทานที่6 ทราบว่าระดับน้ำในเขื่อนลำปาวอยู่ที่ร้อยละ 24 ของปริมาตรการเก็บกัก ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และสามารถใช้น้ำ ได้เพียงการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น
นายอนุสรณ์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ ที่เขื่อนลำปาวว่า คณะกรรมการ ประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนลงพื้นที่ สัมผัสความทุกข์ร้อนของประชาชน มาติดตามว่ารัฐบาลมีความจริงใจมากน้อยเพียงใดที่จะแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร
การลงพื้นที่ พบประชาชนสะท้อนปัญหาว่าถ้าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยซึ่งมีแผนบริหารจัดการน้ำที่ดีแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ จึงทำให้เกิดสถานการณ์ที่วิกฤตขึ้น “ในยามนี้จึงมีคนตั้งคำถาม และมักได้รับคำตอบจากรัฐบาลว่าถ้าจะแล้งก็แล้งถ้าจะท่วมก็ท่วม ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้คำถามคือประชาชนจะมีรัฐบาลไปเพื่ออะไร”
ดังนั้นรัฐบาลต้องพิสูจน์ความจริงใจ 1 ต้องตั้งวอร์รูมแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างจริงจังและทำให้เกิดผลโดยเร่งด่วน 2 รัฐบาลจะต้องเร่งประกาศพื้นที่เขตภัยพิบัติภัยแล้ง 3ต้องจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และ 4 จะต้องมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ พร้อมวางแผนระยะยาวไม่ให้ประชาชนต้องมาลุ้นกับ สถานการณ์น้ำต่างๆ
นายอนุสรณ์ ย้ำว่า ปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลาย10ปี ส่วนหนึ่งเกิดจากปรากฎการณ์ความชื้นจากขั้วโลกเหนือไม่ลงมา ทำให้มวลอากาศเย็นไม่ลงประเทศจีน ซึ่งมาจากการเคลื่อนตัวของบรรยากาศโลกมีการเปลี่ยนแปลงจนส่งผลกระทบโดยรอบ
“แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหรือแม้แต่ข้ออ้างยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยรอไม่ได้” วันที่ 25-26 กรกฎาคม 2562 ที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายก็อย่าติดยึดแต่การแก้ปัญหาทางการเมืองจนลืมแก้ปัญหาบ้านเมือง 7 พรรคฝ่ายค้านลงพื้นที่เพื่อรับฟังและสะท้อนปัญหาเป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่ ภายใต้หลักคิด ฝ่ายค้าน เพื่อประชาชน เพื่อยกระดับการทำงานสภาซึ่งพิสูจน์ได้ตั้งแต่การอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านในช่วงแถลงนโยบายรัฐบาล
ด้านนายสุพจน์ ยืนยันว่าพรรคประชาชาติจะสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อสะท้อนไปยังรัฐสภาปัญหาความแห้งแล้งของภาคอีสาน ซึ่งถือเป็นปัญหาซ้ำซากแต่ขาดผู้ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ หากรัฐบาลหรือกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพฯ จะต้องหามาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะในระยะยาวต้องมีมาตรการเสริมอื่นๆเข้ามาอย่างเป็นรูปธรรม
นางสาวเกศปรียา ระบุว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านมีความตั้งใจในการลงพื้นที่ซึ่งถือเป็นการทำงานเชิงรุกโดยสังเกตว่าภัยแล้งเป็นวิกฤตสำคัญ แต่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้5 ปีที่ผ่านมาภัยแล้ง จึงเป็นวิกฤตที่สำคัญและไม่สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ได้ซึ่งสะท้อนให้เห็นการบริหารที่ล้มเหลว
ขณะที่ นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ระดับน้ำในเขื่อนลำปาว ยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษและไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับการทำการเกษตร โดยในช่วงเวลานี้ต้องบริหารจัดการเพื่อรักษาระบบนิเวศและชายเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้น และวิกฤตจะคลี่คลาย