โฆษกเพื่อชาติ ลั่น! ถึงเวลาคนไทยร่วมกัน ‘สร้างรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยมติมหาชน’ ฝ่าวิกฤติประเทศ

0
1495

นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติเผยว่า เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม ตนคิดว่าระยะเวลา87 ปี เมื่อเทียบกับอายุขัยของมนุษย์ก็จัดว่าเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตที่ผ่านประสบการณ์มายาวนาน พอที่จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าอะไรคือ ความจริง ความถูกต้อง เราคนไทยควรพร้อมใจกัน สร้างรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยมติมหาชน’ เพื่อส่งต่อเป็นมรดกให้คนรุ่นต่อไป

นางสาวเกศปรียา ขยายความต่อว่า แต่ 87 ปีของระบอบการปกครองที่ถูกเรียกว่า ‘ประชาธิปไตยของไทย’ เปรียบได้กับ ‘วัยตั้งไข่’ คือเป็นวัย ’ฝึกยืนแต่ไม่มั่นคง หกล้มหกลุกตลอดยังไม่สามารถทรงตัวได้’ ที่กล่าวเช่นนี้เพราะ 87 ปีที่ผ่านมา ‘อำนาจการปกครองที่แท้จริงไม่ได้เป็นของประชาชนและมาจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ’ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทำทุกวิธีที่จะ ‘ฉ้อราษฎร์อำนาจไปเป็นของกลุ่มตน กีดกันคนส่วนใหญ่ของประเทศ’ จากแนวคิดที่ #ไม่ยอมรับความเท่าเทียมในการแสดงสิทธิในการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางอนาคตของประเทศ กล่าวคืออนุรักษ์นิยมมีความเป็นเผด็จการต้องการกดขี่เอาเปรียบสร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้นกับประชาชนส่วนใหญ่ 

เห็นได้จาก ‘รัฐธรรมนูญ’ ที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ตามหลักการประชาธิปไตยที่เป็นสากล ต้องเป็นกติกาที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับและมีส่วนร่วมในการร่างผ่านตัวแทน แต่รัฐธรรมนูญของไทยทั้ง 20 ฉบับ มีเพียงรัฐธรรมนูญปี 2540 เท่านั้นที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ

ในเวลา 87 ปี ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับโดยเฉลี่ยแล้วรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับมีอายุเพียงแค่ 4 ปีกว่าๆ เท่านั้น‘รัฐธรรมนูญ’ จึงไม่เป็น “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ที่เป็นกติกาการอยู่ร่วมกันของประชาชน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากแนวคิดของเผด็จการอนุรักษ์นิยมที่ต้องการเอาเปรียบประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการมีอำนาจและสิทธิที่มากกว่าผู้อื่น จึงฉีกรัฐธรรมนูญที่ทำให้ตนเสียผลประโยชน์ แล้วก็ร่างขึ้นมาใหม่ตามความต้องการของกลุ่มตนด้วยการอ้าง “สถานการณ์ทางการเมือง” เป็นเหตุผลมากกว่าการสร้าง “หลักการและแนวทาง” ที่จะนำประเทศไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

รัฐธรรมนูญของไทยที่ผ่านมาจึงเป็นเพียงแค่ “สัญลักษณ์” มากกว่า “หลักการ” ที่จะนำพาประเทศชาติไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ยกเว้นรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ฉบับที่ 16 เท่านั้นที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น”รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” เพราะมีที่มาและกระบวนการยกร่างที่เป็นประชาธิปไตย 

ดังนั้นใน ‘ภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจและวิกฤติทางสังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้กฏหมาย’ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังประสบ เนื่องจากการมีผู้บริหารประเทศที่อ่อนด้อยความสามารถ และคำนึงถึงแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ได้ทำการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตนเองอยู่ในอำนาจตลอดไป หน้าที่ของประชาชนไทยทุกคนคือจะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหานี้ ก่อนที่จะเกิดวิกฤติที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่มากกว่านี้ คือ เราต้องร่วมกัน ‘สร้างรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยมติมหาชน’ เพื่อฝ่าวิกฤติประเทศไม่ให้ผู้ใด‘ฉ้อราษฎร์อำนาจไปเป็นของกลุ่มตน’

นางสาวเกศปรียา ฝากเรียกร้องประชาชนไทยทุกคนว่า เรามาร่วมกันสร้าง “รัฐธรรมนูญใหม่” ที่เป็นที่ยอมรับของทุกๆภาคส่วน เพื่อเป็นหลักการที่จะนำประเทศไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยแต่เพียง “เปลือกนอก” ที่มีรัฐธรรมนูญเอื้อประโยชน์เพื่อใครคนใดคนหนึ่งดังเช่นในปัจจุบัน แต่สร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิตให้ผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นประชาชนชั้นสองที่ไม่มีความเท่าเทียมในทุกด้าน