นายจิรายุ ห่วงทรัพย์รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีการอภิปรายงบประมาณของฝ่ายค้านในช่วงสามวันที่ผ่านมาว่า
จากโพลที่ฝ่ายค้านดำเนินการจัดทำพบว่าหลังการอภิปรายงบประมาณ63. ประชาชนชื่นชม ฝ่ายค้านว่าทำหน้าชำแหละการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลของรัฐบาล ได้โดนใจ มากถึง 72.5% และไม่มั่นใจในการใช้งบประมาณของฝ่ายรัฐบาลเนื่องจากชี้แจงหลายประเด็นไม่ชัดเจน ถ้างบความมั่นคงงบกลางและงบที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและพัฒนาคน โดยเฉพาะเรื่องการกู้เงินที่มีเป็นจำนวนมากทั้งๆที่เป็นรัฐบาลต่อเนื่องมากว่า6ปี
นายจิรายุ กล่าวว่าตนรู้สึกผิดหวังกับการทำงานของ ทีมโทรโข่งพรรคพลังประชารัฐที่มุ่งแต่โจมตีเรื่องอดีตทั้งๆพลพรรคตัวเองมักออกมาพูดอยู่เสมอว่าอยากให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าไม่ควรจมอยู่กับอดีต และควรทำการเมืองแบบสร้างสรรค์
แต่วันนี้รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐก็ยังเป็นพวกแผ่นเสียงตก ร่องอ้างเหตุผลว่าต้องกู้เงินมากใน พรบ.งบ63เพราะเอามาใช้หนี้จำนำข้าว ทั้งๆที่ผ่านมาแล้วเกือบ6ปี สะท้อนให้เห็นถึงการด้อยฝีมือของรัฐบาลตู่1ต่อเนื่องมาจนถึงตู่2ที่สำคัญฝ่ายค้านผ่านวาระ1มาแล้วก็ยังไม่วายออกมาโทษรัฐบาลก่อนหน้านี้ซึ่งคงจะพยายามจะหาความชอบธรรมให้กับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ในการกู้เงินจำนวนมหาศาลทั้งๆรัฐบาลที่แล้วบริหารราชการแผ่นดินมากว่า6ปีสร้างหนี้เป็นเงิน 2.2 ล้านล้านบาท แต่กลับทำเป็นตาถั่วมองไม่เห็น พอหาความดีให้ตัวเองไม่ได้ก็หันไปโทษรัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช่หรือไม่
นายจิรายุกล่าวอีกว่า พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศผ่านมาแล้วเกือบ6ปีวันนี้ประชาชนจนจะตายกันหมดแล้วเศรษฐกิจดิ่งเหว ดัชนีทุกตัวตกต่ำมีแต่ใช้งบประมาณแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแต่พลพรรคพลังประชารัฐยังใช้วิธีการเล่นการเมืองแบบน้ำเน่าตนจึงขอเรียกร้องให้พรรคพลังประชารัฐหันมาตอบสังคมว่าจะกู้เงินแบบนี้ต่อเนื่องไปอีกกี่ปี แล้วช่วยหารมต.ฝีมือดีๆมาโชว์ประชาชนว่าจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รวยกระจุกจนกระจาย คนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจกันทุกวันได้อย่างไรจะดีกว่า
นายจิรายุกล่าวอีกว่าตนอยากแนะนำทีมโฆษกของพรรคพลังประชารัฐ เวลาเป็นพรรคซีกรัฐบาลถ้าด่าคนอื่นเพียงอย่างเดียวต้องที่แจ้งว่าจะทำความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจให้ประชาชนกินดีอยู่ดีจะดีกว่า ขืนยังทำพฤติกรรม”รำไม่ดีโทษปี่โทษปู”ระวังจะเป็นมูมเมอร์แรงเพราะการกล่าวหาเรื่องเงินใช้หนี้โครงการจำนำข้าวซึ่งก่อนหน้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็เป็นหนี้คงค้างนโยบายประกันราคาต่อมาเกือบ3ปีโดยมารยาททางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติของการจัดทำนโยบายเพราะถ้าเกิดรัฐบาลไหนทำกำไรกับเกษตรกรหรือหากำไรเรื่องสวัสดิการสังคมการศึกษาและการพยาบาลก็จะถือว่ารัฐบาลนั้นเป็นรัฐบาลเหล่าเหย่
และที่สำคัญรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐก็จัดทำงบประมาณแบบขาดดุลเพื่อไปค้ำประกันราคาสินค้าการเกษตร แถมแจกเงินเป็นว่าเล่น ซึ่งก็เป็นเงินที่กู้มาทั้งสิ้น
ท่าแบบนี้รัฐบาลต่อไปเขาจะโทษได้บ้างหรือไม่ว่าเป็นเพราะรัฐบาลชุดที่แล้วตนอยากจะบอกทีมโทรโข่งมือใหม่ว่าโดยมารยาทการบริหารราชการแผ่นดินเขาจะไม่พูดเรื่องนี้มาเล่นเป็นประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะคนที่มีความรู้ทางด้านการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน นายจิรายุกล่าว