คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค, นายการุณ โหสกุล ส.ส. กรุงเทพมหานคร, นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื่อ, นายบุญแก้ว สมวงศ์, และนายธนกร ไชยกุล ส.ส. ยโสธร, นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ สส. จ.อุบลราชธานี
โดยช่วงบ่ายลงเรือไปให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านทรายงาม ต.กุดกุง อ.คำเขื่อนแก้ว จำนวน 188 หลังคาเรือน จำนวน 605 คน ติดอยู่ในพื้นที่ดอนที่ถูกน่ำท่วมปิดล้อมจากภายนอก ต้องใช้เวลาเดินทางเข้าไปกว่า 20 นาที
และเดินทางมาที่ศูนย์บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมวัดเชียงเพ็ง ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร มีชาวบ้านมายื่นหนังสือร้องเรียนตรวจสอบการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลของรัฐบาล จากนั้นจะเดินทางไปบ้านหนองแสง ต.หัวตะพาน อ.หัวตะพาน และบ้านนาอุดม ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำตอนนี้หนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทางคณะเดินทางลงมาอีสานใต้จะพบว่าน้ำที่จะไหลออกโขงที่โขงเจียม จ.อุบลราชธานี มารวมกันอยู่ตรงอีสานใต้ โดยเฉพาะจังหวัดยโสธรที่มาลงพื้นที่วันนี้พื้นที่นาถูกน้ำท่วมเกือบหมด เหลือเพียงประมาณ 20% ที่จะสามารถเก็บเกี่ยวได้
ตนลงมาให้กำลังใจชาวบ้าน พวกเขายิ้มทั้งน้ำตา คือดีใจที่เรามาเยี่ยม อุตส่าห์เตรียมผ้าขาวม้ามาต้อนรับและให้กำลังใจเราให้สู้ต่อไปแทน แต่พอเข้าไปกอดหรือจับตัวชาวบ้านก็ร้องไห้เพราะเครียดและเสียใจกับอนาคตที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า เพราะหลังจากภัยแล้งและน้ำท่วมต่อเนื่องกันภายในเวลา 3 สัปดาห์ ชาวบ้านหมดเงิน หนี้สินเพิ่ม แต่ต้องใช้เงินซ่อมบ้านและซื้อข้าวของใหม่แทนที่ที่ถูกน้ำพัดไป ทั้งยังไม่มีข้าวกิน ขณะที่ข้าวราคาจะพุ่งสูงขึ้น เรียกว่าชาวบ้านกำลังเครียดกับชีวิตหลังน้ำลด
ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไป และรวบรวมงบประมาณมาจ่ายชดเชยความเสียหายจากภัยแล้งและน้ำท่วมให้เร็วที่สุดไร่ละ 2,000-3,000 บาท อย่าเกินเดือนหน้า เพื่อให้ชาวบ้านมีเงินทุนเตรียมทำนาปรัง ส่วนระยะสั้นคืออยากให้รัฐบาลดูแลสุขภาพจิตของชาวบ้านและป้องกันโรคติดต่อที่เกิดจากน้ำท่วมขัง เช่นโรคฉี่หนู เพราะชาวบ้านเคยชินกับการเดินเท้าเปล่าในน้ำ พร้อมทั้งระดมหน่วยงานซ่อมถนน ซ่อมแซมอาคาร และสะพาน
อย่างไรก็ตามตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มาให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างขันแข็ง และเต็มกำลัง