“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” แค่ตอบปัญหาเศรษฐกิจยังไม่ได้แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ห่วง ถามวัวยังตอบควาย จะเอาความรู้ที่ไหนมาแก้ปัญหา แนะ ประชาชนแห่กดดัน สส. โหวตไล่ประยุทธ์ ตาม “พี่โทนี่” บอก

0
776

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคล ผ่านมาสองวันฝ่ายค้านอภิปรายจนพล.อ.ประยุทธ์มีสภาพเหมือนคนเมาหมัด เดินเซหามุมตัวเองไม่เจอ  ตอบไม่ตรงคำถาม  ไร้องครักษ์ ออกอาการเหมือนคนกำลังถูกทิ้ง  จนไม่น่าเชื่อว่าประสบการณ์จากการเป็นนายกรัฐมนตรี 7 ปีกว่าช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ  

“ยิ่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อยหมัดตรงประเด็นตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ เข้ามาบริหารประเทศจากการรัฐประหาร 2557 ตลอด 7 ปี ไม่สนใจยกระดับชีวิตของพี่น้องประชาชน ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำมาตลอด 7 ปีเกษตรกรยิ่งทำยิ่งจน ยิ่งทำยิ่งเจ๊ง พี่น้องชาวนาต้องเผชิญกับปัญหาราคาข้าวถูกกว่าราคาอาหารสัตว์ ขณะที่ราคาข้าว 1 กิโลกรัมแลกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้เพียง 1 ซอง ราคาข้าวถูกกว่าอาหารสัตว์ อาหารหมูกิโลกรัมละประมาณ 20 บาท อาหารวัวกิโลกรัมละ 12 บาท แล้วพี่น้องเกษตรกรจะอยู่กันอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ตอบไม่ได้ไปไม่เป็น  ท่านเฉไฉพูดไปเรื่องอื่นเพราะมันคือความจริง ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่พี่น้องเกษตรกรลำบากยากจนที่สุด

“พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ กลับไม่เข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับเศรษฐกิจ คณะทำงานเศรษฐกิจเพื่อไทยถามถึงตัวเลขการถดถอยทางเศรษฐกิจและสิ่งที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน หรือ กกร. คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยติดลบ 1.5% การว่างงานไตรมาสแรก 1.96% สูงที่สุดในรอบ 5 ปี และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  และตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่อันตราย ตัวเลขผู้ได้รับวัคซีนแล้วก็ยังต่ำ ส่งผลให้ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น นักท่องเที่ยว นักลงทุนขาดความมั่นใจ  พล.อ.ประยุทธ์ตอบปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยถามวัวท่านก็ตอบควาย  แล้วท่านจะเอาความรู้ที่ไหนมาแก้ปัญหาประเทศ และแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน  

“กระทั่งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยอภิปรายเรื่องธุรกิจท่องเที่ยวไทย  ในสถานการณ์ปกติทำรายได้ให้ประเทศกว่า 3 ล้านล้านบาท อยู่ในอันดับ 3 ของอาเซียน เป็นรอง สิงคโปร์ และมาเลเซีย  แต่เพราะการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่ล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์นักท่องเที่ยวลดลงธุรกิจท่องเที่ยวแทบเป็น ธุรกิจโรงแรมไม่เจ๊ง ก็ปิดชั่วคราวกว่า 30 %  ถ้าท่านอยู่ต่อธุรกิจโรงแรมตายเรียบ มาตรการเยียวยาจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่มาตรการเหล่านี้ไปไม่ถึงใครเลย นั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่า นายกรัฐมนตรีและคณะผู้บริหารไร้ซึ่งความสามารถ ไม่เข้าใจเศรษฐกิจ ไม่เข้าใจธุรกิจและขาดวิสัยทัศน์   ท่านมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจดูแลปากท้องของคนทั้งประเทศไม่ได้เพราะประชาชนจะตายกันหมด ตายจริง เผาจริง

นางสาวตรีชฎา  กล่าวต่อว่า “ความจริงถ้าพล.อ.ประยุทธ์เชื่อตามที่พี่โทนี่แนะนำ และ ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง มันแก้ปัญหาได้ เพราะพี่โทนี่แม้นอยู่ไกลถึงต่างประเทศ แม้นสถานการณ์บ้านเมืองที่ประชาชนเจ็บป่วยล้มตาย ยังห่วงประชาชน ห่วงบ้านเมือง เพราะเวลานี้ผู้นำประเทศอ่อนแอ  เป็นยุคที่คนทำงานก็ตกงานทั่วบ้านทั่งเมือง พ่อค้าแม่ค้าเจ๊ง รัฐบาลสั่งปิดเปิดไม่มีแผนการสะเทือนทุกบ้านทุกวงการ  พี่โทนี่ยังแนะวิธีที่จะให้พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งง่ายที่สุด สำหรับประชาชนที่อยากเปลี่ยนนายกฯ ทุกเขตเลือกตั้ง ไปหาส.ส. บอกส.ส.เลยว่า อย่ายกมือไว้วางใจประยุทธ์ ถ้าไว้วางใจประยุทธ์ ครั้งหน้าจะไม่เลือก วิธีนี้รับรองได้ว่า หลังวันที่ 4 กันยายน คนไทยจะไม่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างแน่นอน

 “ฝ่ายค้านจัดทัพกล่าวหารัฐบาลว่าไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวิกฤตโรคระบาด อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ “ค้าความตาย” กับประชาชน สร้างกำไรและ “มีเงินทอน” จากวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครั้งนี้ ประชาชนเห็นข้อมูลและปฏิกิริยาของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคลเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่สิ่งที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะท่าทีพล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะถูกลอยแพเดี่ยวกลางมหาสมุทร หรือพรรคร่วมรัฐบาลจะกอดคอลงเรือทิ้งดิ่งกลางมหาสมุทรด้วยกัน  เพราะจากข่าวลือเรื่องมีการล็อบบี้คว่ำนายกฯ กับการขยับของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ   มีแววเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอาจจะไฟไหม้ก่อนจบอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ เวลานั้นประชาชนจะลุกเฮฉลองกันทั้งประเทศ” นางสาวตรีชฎากล่าวทิ้งท้าย