‘ก้าวไกล’ เรียกร้องรัฐบาล ส่งเสริม ‘กองทุนอุดหนุนนักกีฬาพาราลิมปิก’ชี้ ควรให้เงินอุดหนุนเท่าเทียมนักกีฬาปกติ เพื่อสร้างกำลังใจในฐานะบุคคลสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่อาคารรัฐสภา ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนผู้พิการและความเท่าเทียม พร้อมด้วย ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร , อภิชาติ ศิริสุนทร , สมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อสัดส่วนภาคใต้ พรรคก้าวไกล เเถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แสดงความยินดีกับ พงศกร แปยอ นักพาราลิมปิกที่คว้าเหรียญทองแรกให้กับประเทศและส่งกำลังกำลังใจให้ทัพนักกีฬาพาราลิมปิกทุกคน พร้อมทั้งเรียกร้องรัฐบาลเพิ่มเงินอุดหนุนสวัสดิการเท่าเทียมกับนักกีฬาปกติ
.
ปริญญา กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นอดีตนักกีฬาตัวเเทนทีมชาติไทย ขอเเสดงความยินดีกับทัพนักกีฬาโอลิมปิกทุกคน อาทิ น้องเทนนิส ที่คว้าเหรียญทองให้กับประเทศไทยได้สำเร็จ เเละทัพนักกีฬาพาราลิมปิกของไทยกว่า 70 กว่าชีวิตที่กำลังอยู่ในการแข่งขันขณะนี้ โดยทัพนักกีฬาไทยได้รับไปเเล้วทั้งสิ้น 5 เหรียญ และต้องขอแสดงความยินดีกับ ‘พงศกร แปยอ’ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งจากจังหวัดขอนแก่น ที่สามารถป้องกันแชมป์ในประเภทวีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย ได้สำเร็จพร้อมทำสถิติโลก เป็นเหรียญทองแรกของทัพนักกีฬาไทย สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยได้อีกครั้ง รวมถึงนักกีฬาอีกหลายคนที่สามารถคว้าชัยได้เหรียญมาอย่างน่าภาคภูมิ เช่น สายสุนีย์ จ๊ะนะ เหรียญทองแดงจากกีฬาฟันดาบ และ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม เหรียญทองแดงจากกีฬาเทเบิลเทนนิส ภูธเรศ คงรักษ์ เหรียญทองแดงจากกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง และ อธิวัฒน์ แพงเหนือ เหรียญเงินจากกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง ขณะนี้ยังมีนักกีฬาที่ยังทำการแข่งขันและมีโอกาสจะคว้าเหรียญเพิ่มเติมให้กับทีมชาติไทย
.
“สำหรับนักกีฬาคนพิการกว่าที่จะมีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้องมีแพทย์มาจัดระดับความพิการเพื่อให้มีความได้เปรียบเสียเปรียบน้อยที่สุด ต้องออกไปเก็บคะแนนจัดอันดับโลกเพื่อให้ได้สิทธิเข้าไปแข่งขัน เป็นความพยายามและการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศที่ไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นกีฬาโอลิมปิก เอเซียนเกมส์ หรือพาราลิมปิก แต่หลังจากนักกีฬาได้รับรางวัล รางวัลของนักกีฬาผู้พิการกลับต่างจากนักกีฬาปกติ โดยนักกีฬาที่ได้เหรียญทองจากพาราลิมปิกจะได้เงินสนับสนุน 7.2 ล้านบาท เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท ขณะที่นักกีฬาปกติจะสูงกว่าเกือบเท่าตัว เช่น เหรียญทอง 12 ล้านบาท จึงเกิดความไม่เป็นธรรมในค่าตอบแทนรางวัลของนักกีฬา ซึ่งประเด็นเหล่านี้ในเรื่องของงบประมาณไม่ได้มีปัญหาเลย เพราะเงินกองทุนสนับสนุนมีถึงปีละประมาณ 4,000 ล้านบาท ประเด็นนี้ได้เคยหารือไปแล้วในคณะกรรมาธิการกีฬา รัฐสภา ซึ่งทางกองทุนรับว่าจะนำประเด็นเหล่านี้ไปปรับแก้ไขในเรื่องของระเบียบ แต่ถึงตอนนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้าจึงต้องติดตามว่าหลังจากนี้จะมีการปรับแก้ตรงไหนอย่างไรบ้าง”
.
ทั้งนี้ ปริญญา ยังเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขข้อเสนอเเละเงื่อนไขในกองทุนอุดหนุนเพื่อปรับเงินสนับสนุนสำหรับนักกีฬาพาราลิมปิกเเละนักกีฬาปกติให้ได้รับอย่างเท่าเทียมกัน