วันที่ 23 สิงหาคม 2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า 7 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ ใช้เวลาไปกับการไล่ล่ากลุ่มที่เห็นต่าง กำจัดนักการเมืองฝั่งตรงข้าม หาผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด
พี่น้องเกษตรกรถูกละเลยมากที่สุด รายได้ของพืชผลทางการเกษตรตกต่ำมาโดยตลอดยิ่งทำ ยิ่งจน ยิ่งทำ ยิ่งเจ๊ง ทั้งนี้เนื่องมาจาก ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน ค่าไถ ค่าหว่าน ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ยและค่าแรงที่สูงขึ้น เกษตรกรช้ำใจมาก เพราะ ราคาข้าวเปลือก 1 กิโล แลกมาม่าได้เพียงห่อเดียว เกษตรกรต้องแบกรับภาระอย่างหนักมากภาระหนี้สินที่ เพิ่มขึ้น รัฐบาลมีอำนาจแต่ไม่เคยทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพขายได้ราคาสูงขึ้น
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ เลือกที่จะโกหกประชาชน และไม่เคยทำตามคำพูดที่เคยประกาศไว้ในช่วงการเลือกตั้งได้เลย ทั้งนี้เพื่อชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐบาล ประกาศยกระดับราคาสินค้าเกษตร ให้สูงขึ้น ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาท/ตัน ข้าวเจ้า 12,000 บาท/ตัน ยางพารา 65 บาท/กิโล อ้อย 1,000 บาท/ตัน ปาล์มน้ำมัน 5 บาท/กิโล และมันสำปะหลัง 3 บาท/กิโล สุดท้ายแล้วไม่สามารถทำได้และไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยถึงนโยบายช่วงการหาเสียงทีผ่านมา
“ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ พลเอกประยุทธ์ ไม่เคยพูดถึงการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรอย่างมีแนวทางที่ชัดเจน แต่พลเอกประยุทธ์ เก่งในการเผาผลาญงบประมาณของประเทศชาติ ใช้เงินไม่ถูกที่ ไม่ถูกจุด เมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณจำนวนมหาศาลที่ท่านนำไปใช้ในโครงการต่างๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนเลย แต่ งบประมาณต่างๆในภาคการเกษตรใช้เพียงน้อยนิด เท่านั้น ทำไมไม่นำมาดูแลพี่น้องเกษตรกร”นายสงคราม กล่าว