วันที่ 6 สิงหาคม 2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และคณะ ล้มเหลวมาตั้งแต่ต้น เพราะมาตรการที่ออกมาไม่ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและการไม่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ส่งผลให้มาตรการของรัฐกระทบกับการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน แต่ที่ผ่านมาแม้มาตรการที่รัฐบาลประกาศใช้จะล้มเหลวอย่างไรก็ไม่เคยโทษตัวเอง แต่เลือกที่จะโทษคนอื่น
ล่าสุดรัฐบาลอ้างว่า มาตรการล็อกดาวน์ ที่รัฐบาลบังคับใช้ในหลายพื้นที่ ไม่ได้ผล เนื่องจากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตาม ทั้งๆที่ทุกวันนี้ประชาชนป้องกันตัวเองหนักมาก บรรยากาศในหลายพื้นที่ในกรุงเทพและต่างจังหวัดไม่ต่างจากเมืองร้าง การกล่าวหาว่าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ จึงเป็นการโยนบาปให้กับประชาชนที่ทั้งๆที่ความล้มเหลวของการล็อกดาวน์ของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่มาตรการของรัฐไม่มีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะคนออกมาตรการไม่เคยศึกษาการบริหารจัดการที่เป็นระบบ มาตรการที่ออกมาจึงล้มเหลวไม่เป็น
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า แค่การล็อคดาวน์อย่างเดียวคงไม่พอ รัฐบาลต้องทำทุกอย่งควบคู่กันไป ทั้งการตรวจปูพรมทุกพื้นที่และทุกคนแล้วแยกคนติดเชื้อออกไปทำการรักษาแล้วรีบฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ภายใน1เดือน ต้องทุ่มเทงบประมาณลงไปเต็มที่ ตัดงบประมาณอื่นๆที่รอได้ออกให้หมด เพื่อแก้ปัญหาครั้งเดียวแล้ว อย่าอ้างว่าไม่มีโรงพยาบาลไม่มีเตียง บุคลากรทางการแพทย์ไม่พอ ถ้าเป็นนักบริหารต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
“ขอแนะนำวิธีแก้ง่ายๆเรื่องสถานที่ซึ้ง ที่เคยให้แนวทางไว้ ควรใช้พื้นที่กรมทหารทีมีอยู่ทุกแห่ง เป็นโรงพยาบาลสนามหรือเป็นสถานที่กักตัวรวมทั้งโรงเรียนและวัดทุกแห่งก็สามารถใช้ได้ ส่วนบุคลากรก็เอา อสม.และขอรับอาสาสมัครอีกเป็นต้น นายกต้องมีความกระตือรือร้น ทำแบบฉุกเฉินจริงๆไม่ใช้ทำแบบทุกวันนี้ หรือ พลเอกประยุทธ์มีเจตนาแอบแฝงเพื่อจะได้อยู่ในตำแหน่งต่อไปนานๆโดยไม่สนใจชีวิตของประชาชน การรวบอำนาจไว้คนเดียว แต่ไม่ใช้อำนาจที่มีอยู่แก้ปัญหาโรคระบาดและไม่แก้ปัญหาระบบเศรษฐกิจที่กำลังจะล่มสลายทั้งประเทศมาตรการล็อคดาวน์ล่าสุด ทำลายระบบเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง ผู้ประกอบการร้านค้าได้รับผลกระทบถ้วนหน้า มีที่ไหนให้เปิดหน้าร้านในศูนย์การค้าแต่ห้ามขายอาหารต้องซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นเท่านั้น ห้ามไปยืนซื้อหน้าร้าน ส่งผลให้ประชาชนเสียเงินเพิ่มมากขึ้น เป็นแนวคิดของคนที่ไม่เคยศึกษาการทำธุรกิจมาก่อน ดังนั้นจึงมองภาพไม่ออกว่าเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนอย่างไร ”นายสงคราม กล่าว