อนุสรณ์ ถาม รัฐบาล คนฝ่าโควิดออกมาไล่มากขนาดนี้ ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ประชาชนออกมาร่วมคาร์ม็อบบีบแตรไล่รัฐบาลสนั่นทั่วประเทศ ดาหน้าโจมตีการที่งานที่ผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาล ว่า แทนที่จะโกรธคนที่ออกมาไล่ รัฐบาลควรเห็นใจ ที่มีคนยอมเสี่ยงฝ่าโควิด ออกมาไล่รัฐบาลทั้งประเทศมากขนาดนี้ ประชาชนที่ออกมาดั่งแม่น้ำร้อยสายไหลรวมเป็นหนึ่งเป็นของจริง เดือดร้อนจริง ไม่ใช่การจัดฉาก รัฐบาลผิดพลาดล้มเหลวแก้โควิดไม่ไวเท่าเอาผิดประชาชน ควบคุมโควิดไม่ได้ ทำได้แค่ควบคุมไอโอ จำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส ไม่เก่งเท่าจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน มาตรการที่รัฐออกมาทำได้แค่ยกระดับล็อกดาวน์และขยายจังหวัดสีแดงเข้มออกไปเรื่อยๆ แต่คนติดเพิ่ม คนตายพุ่ง ทุบสถิติทำนิวไฮขาขึ้นตลอด เจ็บแล้วไม่จบ มีแนวโน้มเจ็บแล้วเจ็บอีก สำนักข่าวนิเคอิของญี่ปุ่นฟันธงประเทศไทยจะฟื้นตัวจากวิกฤติโควิดเป็นอันดับที่ 118 จาก 120 ประเทศ ต่ำกว่าลาว กัมพูชา เวียดนาม ตามศักยภาพการบริหารจัดการวัคซีน อย่างเร็วสุดคือ 5 ปี กว่าจะฟื้นตัว ยิ่งใช้อำนาจที่ปราศจากความชอบธรรม รัฐบาลยิ่งสูญเสียความชอบธรรม ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ไม่เปลี่ยนตัวพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้
“อยุธยาไม่สิ้นคนดี ประเทศไทยไม่ได้อับจน ถึงขั้นหาคนมาแก้ปัญหาดีกว่านี้ไม่ได้ หยุดผูกขาดการทำหน้าที่ไว้เฉพาะพล.อ.ประยุทธ์และพวกพ้อง 7 ปีที่ผ่านมา ยังไม่สาใจแก่ใจหรือ ที่นำพาประเทศไทยมาถึงจุดวิกฤตที่สุดแบบนี้” นายอนุสรณ์ กล่าว
อนุสรณ์ จี้ รัฐ หยุดใช้ความรุนแรงกับประชาชน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนปราบปรามประชาชนเกินความจำเป็น ว่า ประชาชนตั้งคำถามว่า เป็นการสร้างความหวัดกลัวโดยไม่มีการจัดฉาก เจ้าหน้าที่รัฐเสพติดความรุนแรงในการปราบปรามประชาชนหรือไม่ ทั้งการตั้งแนวโล่ รถฉีดน้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายการชุมนุม จัดหนัก เข้าข่ายอุปกรณ์ดับเพลิงไม่เคยครบ แต่อุปกรณ์การรบกับประชาชนไม่เคยขาด หลายครั้งที่แกนนำยุติการชุมนุมไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการกดดันประชาชนให้สลายตัวด้วยวิธีการที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ประชาชนมาเรียกร้องให้เปลี่ยนรัฐบาล ประชาชนมาขอวัคซีนคุณภาพให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ แทนที่รัฐบาลจะห้ามปรามเจ้าหน้าที่รัฐ กลับทำตัวเหมือนให้ท้าย จากนี้ไปการออกมาเคลื่อนไหวให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของประชาชน จะออกมาถี่ขึ้นและจำนวนคนเข้าร่วมมากขึ้น ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ปรับทัศนคติเปิดใจยอมรับและเคารพในสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน จะมีปัญหาการใช้ความรุนแรงกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
“เสียงแตรรถ ที่บีบไล่รัฐบาล ดังสนั่นหวั่นไหว ทั่วทั้งประเทศ ความเดือดร้อน ความสูญเสีย เสียงร้องไห้ของประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ยินบ้างหรือ อย่ายืนข้างอำนาจรัฐที่ล้มเหลว หยุดมองคนเห็นต่างเป็นศัตรู” นายอนุสรณ์ กล่าว
อนุสรณ์ แนะ รัฐบาล ดู โคกขามโมเดล ปฏิบัติการเชิงรุกแบบครบวงจร ตรวจค้นหา รักษา ป้องกันโควิด-19
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ปัญหาความล่าช้าในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ว่า มาตรการล็อกดาวน์ใช้บังคับมาครบ 14 วัน แต่ความจริงล็อกดาวน์ มาแล้ว 21 วัน ไม่ใช่ 14 วัน เพราะเริ่มล็อกตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน ผลก็อย่างที่เห็นกันทั่วบ้านทั่วเมือง ว่า มาตรการล็อกดาวน์ 14 วันไม่ทำให้โควิดอ่อนกำลังลงอย่างที่โฆษณา จำนวนผู้ป่วยช่วงล็อกดาวน์สูงกว่าช่วงก่อนล็อกดาวน์ ถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญรัฐบาลไม่สามารถกำหนดเส้นตายว่าจะล็อกดาวน์ไปอีกกี่วัน กี่เดือน รัฐบาลควรปฏิบัติการเชิงรุกแบบครบวงจร ในการตรวจค้นหา รักษา ป้องกันโควิด-19 แบบโคกขามโมเดล ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ทุกคนที่มาเข้ารับบริการหลังจากผ่านกระบวนการตรวจสอบประวัติบันทึกข้อมูลในระบบเบื้องต้นแล้ว ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการหรือขั้นตอนที่เรียกว่าตรวจค้นหา รักษา ป้องกัน คือตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) จากนั้นนั่งรอผลประมาณ 15 นาที ถ้าผลเป็นลบก็ให้ไปต่อที่การฉีดวัคซีน เมื่อฉีดวัคซีนแล้วก็นั่งพักรอสังเกตุอาการจนครบ 30 นาที เจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมแล้วกลับบ้าน ขณะที่ผู้ที่มีผลเป็นบวกจะต้องเข้าสู่ห้องแยกกักตัวชั่วคราว เพื่อคัดกรองอาการของโรคทันที และทางเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้พิจารณาว่าผู้ติดเชื้อรายนั้นต้องให้ยาหรือไม่ ถ้าต้องให้ยาควรเป็นยาฟาวิพิราเวียร์ หรือฟ้าทลายโจร และต้องใช้วิธีการกักตัวในแบบใด Home Isolation , Community Isolation
โรงพยาบาลสนาม หรือโรงพยาบาลหลัก โมเดลนี้ จะทำให้สามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ครอบคลุมรวดเร็วขึ้น
“รัฐบาลต้องทำงานแข่งกับเวลา ลำพังการยกระดับล็อกดาวน์เข้มข้นขึ้นไปเรื่อยๆหรือขยายจังหวัดสีแดงเข้มออกไปมากเพียงใด ถ้าการฉีดวัคซีนยังล่าช้า จะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19ได้” นายอนุสรณ์ กล่าว