นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นางสาวทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีการจัดฉากภาพผู้เสียชีวิตนอนริมถนน และสงสัยว่ามีการรับจ้างไปนอนล้มในสถานที่ต่างๆเพื่อสร้างสถานการณ์ว่า อยากให้นางสาวทิพานันลดอีโก้ให้น้อยลง มองคนให้เป็นคนมากขึ้น อย่ามุ่งมั่นขายจิตวิญญาณเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากคนในรัฐบาลจนมองไม่เห็นศพคนตาย หากนางสาวทิพานันมีหลักฐานการจัดฉากการตายข้างถนนจริง ควรนำข้อมูลทั้งหมดไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจดีกว่าการกล่าวโทษประชาชนผู้สูญเสียแบบนี้
ส่วนกรณีที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่การออกข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29)สั่งห้ามเผยแพร่ข้อความที่ทำให้เกิดความหวาดกลัว เข้าใจผิด โดยไม่ได้กำหนดว่าต้องข้อความนั้นเท็จหรือไม่ นางสาวอรุณี กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่ารัฐบาลมีเจตนาไล่ปิดปากประชาชน หวังทำให้เกิดความกลัวเพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น ทั้งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและองคาพยพ บริหารจัดการล้มเหลวทุกด้าน แต่กลับบริหารโดยการขู่ ซึ่งวิธีนี้ไม่ต่างจากเผด็จการในหลายประเทศ แทนที่เจ้าหน้าที่จะทุ่มสรรพกำลังไปทำงานช่วยเหลือประชาชน กลับใช้เวลาไปกับการปกป้องรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น นอกจากนี้เนื้อหาในข้อกำหนดดังกล่าวยังคลุมเครือ ขัดต่อรัฐธรรมนูญและหลักการสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน จำกัดสิทธิเสรีภาพที่เกินสมควรแก่เหตุ ไม่ได้ต้องการคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนแต่อย่างใด พร้อมฝากให้คนของรัฐบาลจัดการเอาผิดกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ปล่อยเฟคนิวส์ว่าไตรมาส 3 วัคซีนจะเต็มแขนประชาชนแล้ว แต่เหตุใดยังมีภาพคนต่อคิวแออัดเบียดเสียดเพื่อฉีดวัคซีนจนถึงทุกวันนี้
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังได้เชิญชวนสมาชิกกองทุนบทบาทสตรี คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน และ อสม. ที่มีอยู่ทุกหมู่บ้าน ออกมาตั้งกลุ่มในชุมชน ใช้พื้นที่วัด พื้นที่ของ อบต.หรือพื้นที่สาธารณะในหมู่บ้านสร้างศูนย์กักกันโรค เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนปกติ เพราะหากรัฐบาลพึ่งพาไม่ได้แล้วหวังแต่จ้องเอาผิดกับประชาชน พวกเราก็ต้องช่วยเหลือกันเอง
“รัฐบาลยิ่งอยู่ยิ่งเสื่อม ยิ่งตกต่ำลงทุกวัน ประชาชนไม่จำเป็นต้องไหลลงเหวตาม ประเทศชาติอยู่ในวิกฤต ประชาชนคือหัวแรงหลักในตอนนี้ พวกเรามีโครงการและกลุ่มคนที่มีศักยภาพอยู่ ร่วมพาชาติพ้นวิกฤตกันด้วยแรงของเราค่ะ” นางสาวอรุณีกล่าว