พรรคไทยสร้างไทย แถลงพิมพ์เขียว แนวทางเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค ,ดร. โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ,คุณไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ และอดีตประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภา SMEs) ,คุณนพดล มังกรชัย สมาชิก คณะกรรมการยุทธศาสตร์ และอดีต EVP ธนาคารไทยพาณิชย์
เนื่องจากสถานการณืการแพร่ระบาดโควิด 19 ในปัจจุบันได้สร้รางความเสียหาย อย่างยิ่ง ต่อปัญหา เศรษฐกิจ ปากท้องและการทำมาหากิน ของประชาชน โดยมีการประมาณการความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่าแสนล้าน
ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยจึงเห็นว่า การที่รัฐบาลมีคำสั่งล็อกดาวน์ แต่ยังไม่มีมาตรการเยียวยาที่เพียงพอ ได้ส่งผลกระทบ ต่อประชาชนและธุรกิจ SMEs เป็นจำนวนมาก จึงขอเสนอพิมพ์เขียวแนวทางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากโควิด19 ดังต่อไปนี้
กลุ่มที่ 1 ประชาชนทั่วไป
ให้เยียวยาทุกครัวเรือน ดังนี้
1. ช่วยค่าครองชีพ เดือนละ 7000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้ประชาชนมีค่ายังชีพ เพียงพอประทังชีวิตในช่วงล็อกดาวน์
2. ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
– ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่เกิน 1000 บาท ต่อเดือน ให้ใช้ฟรี 3 เดือน
– ค่าเช่า รัฐเจรจากับเอกชนผู้ให้เช่า เพื่องดการเก็บค่าเช่าเป็น เวลา 3 เดือนในระหว่างที่รัฐยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด 19 ได้ โดย ให้รัฐชดเชย ให้กับผู้ให้เช่าบางส่วน โดยอาจจะอยู่ในรูปแบบของการลดภาษี และต้องไม่ถือว่า เป็นการผิดนัด การผ่อนชำระค่าเช่า จนเป็นเหตุให้เกิดการยึดพื้นที่
– ให้รัฐช่วยเจรจา หามาตรการลดค่าดำเนินการ (GP) ที่บรรดาผู้ประกอบการ Food Delivery เช่น LineMan Grab ฯลฯ เรียกเก็บจากพ่อค้าแม่ค้า ประมาณ 32% ให้เหลือ 10% เพื่อช่วยร้านอาหารรายเล็ก
3.พักชำระหนี้เป็น เวลา 6 เดือน ด้วยการพักการผ่อนเงินต้นและลดคิดดอกเบี้ย โดยเฉพาะค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน โดยเริ่มนำร่องจากธนาคารของรัฐก่อน และต้องไม่ถือว่า เป็นการผิดนัดชำระหนี้ มาเป็นเหตุให้ยึดบ้าน ยึดรถ
กลุ่มที่ 2 เยียวยาสำหรับธุรกิจ SMEs ดังนี้
1.ช่วยจ่ายค่าจ้างให้พนักงานเดือนละ 5,000-7,000 บาท ผ่าน SMEs เพื่อรักษาชีวิต SMEs และพนักงาน เป็นเวลา 6 เดือน
2.พักชำระหนี้ SMEs ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่นับเป็นหนี้เสีย,เครดิตบูโร
3.โครงการ “Soft loan 1 แสนล้านบาทเพื่อสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง” โดยมีเงื่อนไขหลักๆ ต่อไปนี้
– ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 10 ปี
– วงเงินปล่อยกู้ 500,000 – 1,000,000 บาท
– ให้ บสย. ค้ำประกัน 100%
– ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการขอใช้วงเงิน
– ทุกการกู้ 5 แสนบาท ต้องจ้างงาน 5 ตำแหน่ง ตลอดระยะเวลาการกู้ ซึ่งโครงการนี้ จะทำให้เกิดการจ้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง
– รัฐช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้ครึ่งหนึ่งในช่วง 2 ปีแรก สมมุติดอกเบี้ย 4% รัฐจ่ายให้ 2% เท่ากับรัฐมีภาระจ่ายดอกเบี้ยให้ประชาชนปีละ 2000 ล้าน 2 ปีเท่ากับ 4000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมาก คุ้มกับการช่วยชุบชีวิต SMEs เป็นแสนๆราย ให้เดินหน้าธุรกิจได้ต่อหลังโควิด-19 และทำให้เกิดการจ้างงานถึง 1 ล้านตำแหน่ง