เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้ถกเถียงเรื่องนายกพระราชทาน ซึ่งเป็นข้อถกเถียงที่มีการพูดถึงในวงกว้างในขณะนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นดังกล่าวผ่านข้อเขียนเรื่อง “การติดตั้ง ‘นายกฯ พระราชทาน’ไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560” โดยระบุว่า
เรื่อง “นายกรัฐมนตรีพระราชทาน” เป็นปมปัญหาของการเมืองไทยมาโดยตลอด เมื่อไรก็ตามที่มีวิกฤต ไม่ว่าวิกฤตนั้นจะเกิดขึ้นเองหรือสมคบคิดสร้างขึ้นมา ก็จะมีกระแสเรียกร้อง ‘นายกรัฐมนตรีพระราชทาน’ ทุกครั้งไป ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย และหลักการกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ
.
เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุต่ออีกว่า “ในระยะหลัง เมื่อมีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทีไร ก็จะมีข้อเสนอให้เขียนรัฐธรรมนูญ เพื่อรับรองให้มี ‘นายกฯ คนกลาง’ บ้าง ‘นายกฯคนนอก’ บ้าง ตอนใช้รัฐธรรมนูญ 40 ก็มีการเสนอให้ตีความมาตรา 7 เพื่อมี ‘นายกฯ พระราชทาน’ ผ่าน ‘ประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข’ ตอนทำรัฐธรรมนูญ 50 ก็มีข้อเสนอใน สสร. ตอนนั้นว่าต้องมีมาตราที่เปิดทางให้มีองค์กรอรหันต์มาแก้วิกฤตการเมือง แต่เรื่องนี้ตกไป ต่อมาในช่วง กปปส. ชุมนุม ก็มีการอธิบายให้ระบบถึงทางตัน เพื่อนำไปสู่ ‘นายกฯ พระราชทาน’ พอมารัฐธรรมนูญ 2560 คราวนี้ไปกันใหญ่ พวกเขาคงทราบดีว่าในอนาคตถ้าหากต้องการเสนอ ‘นายกฯ พระราชทาน’ กันอีก ก็จะถูกโต้แย้งเรื่องขัดรัฐธรรมนูญบ้าง ขัดหลักการบ้าง อย่ากระนั้นเลย พวกเขาจึงบรรจุเข้าไปในรัฐธรรมนูญเสียเลย ในมาตรา 272 วรรคสอง เปิดทางให้มีนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีได้”
.
นายปิยบุตร ระบุว่า “นี่คือ การติดตั้ง ‘นายกฯ พระราชทาน’ เข้าไปในรัฐธรรมนูญ นี่คือ Constitutionalisation of Royal Prime Minister ทำไมผมถึงพูดเช่นนี้? ถ้าเราลองอ่าน 272 วรรคสองดู ‘ในระหว่างเวลาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้’
.
“จะเห็นได้ว่า ต้องลงคะแนนกันถึงสามรอบ รอบแรก กึ่งหนึ่งของสองสภา เพื่อเสนอเรื่อง รอบสอง 2ใน 3 ของสองสภา เพื่อมีมติอนุญาตให้ยกเว้นการเลือกนายกฯ จากบัญชี รอบสาม กึ่งหนึ่งของสองสภา เพื่อมีมติเลือก ‘คนนอก’ เป็นนายกรัฐมนตรี ลองคิดดูว่าจะมีปัจจัยใดที่ส่งผลบังคับให้ทั้ง ส.ส. ทั้ง ส.ว. สมัครสมานลงคะแนนไปในทิศทางเดียวกันที่มากขนาดนี้ถึงสามรอบ ดังนั้น ผมจึงยืนยันว่านายกรัฐมนตรีที่มาจากช่องทางตามมาตร 272 วรรคสอง ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตามระบบแน่ๆ ใครก็ตามที่ยืนยันว่า ไม่เอา ‘นายกฯ พระราชทาน’ ก็ต้องยืนยันต่อไปด้วยว่า ไม่เอานายกฯ ตาม 272 วรรคสอง” ปิยบุตร ระบุ พร้อมร่วมติดแฮชแท็ก #ไม่เอานายกพระราชทาน