ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก พรรคก้าวไกล โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า เนื่องจากกรณีรัฐมนตรีกระทรวงดิจิตัลออกมากล่าวว่าจะดำเนินคดีกับผู้ออกมาวิจารณ์รัฐบาล และพาดพิงถึงกลุ่มศิลปินที่ออกมาเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง แม้ภายหลังจะแถไปเรื่อย แต่ก็ไม่สามารถลบเนื้อหาและความตั้งใจแรกได้
.
“รัฐมนตรีคนนี้ รับตำแหน่งตอนที่ประเทศเจอสถานการณ์โควิดอยู่แล้ว เรื่องที่ต้องทำกลับไม่ทำ กลับมาตั้งตัวเป็นผู้ละเมิดรัฐธรรมนูญ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
.
“รัฐมนตรีที่คุมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เป็นตัวการปล่อยข่าวลวงเสียเอง ว่ารัฐบาลกำลังทำได้ดี ประเทศไทยมีวัคซีนที่ดี “
.
สิทธิในการแสดงออกทางความคิด และวิพากษ์วิจารณ์รัฐ คือ สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ เป็นการติชมโดยสุดจริต ในสถานการณ์วิกฤติของชีวิต เป็นการส่งเสียงเพื่อประเทศชาติ ว่าทุกคนต้องการการบริหารที่ดีกว่า ถ้ามีข้อมูลใดไม่จริง รัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจง ไม่ใช่การดำเนินการฟ้องร้องประชาชน
.
“นี่ยังไม่นับการทำตัวเป็นหน่วยข่าวของทหาร มีการแทรกซึมคนไปตรวจดูความคิดของประชาชนอีก
คนแบบนี้ มาตามโควตามุ้งการเมือง ไร้คุณสมบัติทั้งปวง ทำได้แค่สนับสนุนประยุทธ์และรัฐบาลสืบทอดอำนาจต่อไปให้นานที่สุด
.
“เรื่องที่รัฐมนตรีกระทรวงดิจิตัลควรทำมีมากมาย เช่น การผลักดันให้เกิด SuperApp สำหรับช่วยประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุข app เดียวจบในการแจ้งคิววัคซีน แจ้งผลตรวจ หาเตียง แจ้งมาตรการรัฐในการเยียวยา ติดตามและแจ้งเตือนกลุ่มเสี่ยง และสามารถติดต่อขอรับชุดตรวจได้ทางไปรษณีย์ ยกระดับการบริกาาภาครัฐในสถานการณ์วิกฤตให้เป็น Digital government platform ไม่ใช่ให้ประชาชนเจอสถานการณ์ “วัคซีนน้อย ร้อยแอพ” แบบนี้”
.
ปดิพัทธ์ ย้ำอีกว่า ถ้ารัฐมนตรีทำไม่เป็น ก็ออกไป เอาคนมีความสามารถมาทำ กระทรวงดิจิตัลจะต้องทำระบบรองรับการทำ Home isolation ด้วยระบบการติดตามตัว ระบบเฝ้าระวังโรคเพื่อสื่อสารกับสาธารณสุข ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของโรงพยาบาลสนามคือ มีการผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ และกลุ่มเสี่ยงที่ไม่มีอาการ เข้าไปพักจนโรงพยาบาลสนามเต็ม ผู้ติดเชื้อที่ป่วยหนัก ต้องนอนรอเตียงจนตายที่บ้าน ตายที่ถนน แต่รัฐมนตรีนิ่งใบ้ ไล่จับคนวิจารณ์รัฐบาล
.
กระทรวงดิจิตัลต้องเป็นหัวหอก ในการจัดบริการอินเทอร์เน็ตฟรีให้ทั่วถึง รับการเรียนออนไลน์ การทำงานที่บ้าน ลดต้นทุนของประชาชน
.
“เวลาแบบนี้ รัฐมนตรีทำอะไร ผมย้ำอีกครั้ง ทำไม่เป็นก็ออกไป ไม่ใช่เวลามากอดเก้าอี้ เอาใจนาย ให้ลูกหลานจดจำคุณในรัฐมนตรีที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์ให้กับรัฐบาลที่ทำลายชีวิตประชาชนย่อยยับแบบนี้”