ทึ่ง ! เขียนบรรทัดเดียวขอ 1,469 ล้านบาท ‘ปกรณ์วุฒิ ก้าวไกล’ ฉะ งบ ‘โครงการสนับสนุนกิจกรรมพิเศษหลวง’ กรมโยธาฯ ไม่แจงรายละเอียด ย้ำ ภาษีประชาชนต้องตรวจสอบได้ทุกบาททุกสตางค์ หากแจงไม่ได้ขอตัดทั้งหมด ขยี้ต่อ ‘กรมการปกครอง’ เตรียมสร้าง ‘หอกระจายข่าว’ หวั่นตกยุคซ้ำรอย ‘โทรเลข’

0
985

วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ที่อาคารรัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้ตั้งคำถามกับหน่วยงานกระทรวงมหาดไทย ทั้งงบประมาณของกรมการปกครอง และกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ใช้สำหรับโครงการต่างๆ
.
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า งบก่อสร้างหลายโครงการใช้งบประมาณค่อนข้างมากและเป็นโครงการผูกพันงบประมาณหลายปี ดังนั้น โครงการที่ไม่จำเป็นต่อสถานการณ์ในขณะนี้ควรต้องตัดทิ้ง เช่น ของกรมการปกครอง มีการตั้งงบประมาณก่อสร้างกองร้อยอาสาดินแดนทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ รวมแล้วประมาณ 60 แห่ง งบประมาณรวมประมาณ 360 กว่าล้านบาท จึงเกิดคำถามว่าการสร้างกองร้อยอาสาดินแดนมีความจำเป็นเร่งด่วนขนาดไหน หากงบประมาณส่วนนี้ถูกนำไปให้เป็นเบี้ยเลี้ยงดูแลสวัสดิการให้อาสาสมัคร ยังเป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมมากกว่านี้

“รายการต่อมามีการตั้งงบประมาณสร้างหอกระจายข่าวจำนวน 40 ล้านบาท โดยปีที่แล้วของบประมาณก่อสร้างด้านนี้ไป 500 แห่ง ปีนี้ขอสร้างอีก 250 แห่ง จึงอยากตั้งคำถามว่าปัจจุบันเรามีหอกระจายข่าวจำนวนทั้งหมดเท่าใด แล้วต้องมีจำนวนเท่าใดถึงจะเพียงพอ ในขณะที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขึ้นทุกวัน เข้าใจดีว่าประชาชนอาจไม่ได้เข้าถึงสมาร์ทโฟนกันทุกคน แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราน่าจะสามารถหาวิธีที่มีประสิทธิภาพได้มากกว่านี้หรือไม่ เพราะในที่สุด มีความเป็นไปได้ว่าหอกระจายข่าวจะกลายเป็นแบบโทรเลขที่ก็จะไม่ได้มีการใช้งาน การสร้างไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพอเสียที ก็จะใช้งบประมาณแผ่นดินไปเรื่อยๆ” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
.
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อไปว่า งบประมาณที่เห็นว่าจำเป็นต้องตัดคืองบประมาณสำหรับหอประชุมอำเภอจำนวน 10 แห่ง ใช้งบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 73 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ในปีนี้ การประชุมที่เจอหน้ากันอาจทำได้ยากหรือแทบจะทำไม่ได้เลย การตั้งงบประมาณสร้างในส่วนนี้อาจยังไม่เหมาะสมในสถานการณ์เช่นนี้ และยิ่งมีการนำงบประมาณไปสร้างสนามกีฬาในวิทยาลัยการปกครองอีกเกือบ 40 ล้านบาท ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำงบประมาณไปใช้ด้านนี้เช่นกัน
.
“มีงบประมาณที่ใช้ก่อสร้างที่ว่าการอำเภอแห่งใหม่จำนวน 12 แห่ง แห่งละประมาณ 27 ล้านบาท รวมเป็นเงินงบประมาณจากภาษีของประชาชนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท จึงอยากจะทราบความจำเป็นเร่งด่วนเช่นเดียวกันว่าทำไมต้องใช้งบประมาณเยอะขนาดนี้ในการสร้างที่ว่าการอำเภอใหม่ และมีข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วยว่าที่มีงบประมาณสำหรับอาคารที่พักผู้เดินทางและอเนกประสงค์ ศูนย์บริหารศาสนาอิสลาม เขตหนองจอก ซึ่งตั้งงบประมาณมาแล้ว 2 ปี แต่ยังเบิกจ่ายไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว ดังนั้นงบประมาณที่มาขอสำหรับก่อสร้างจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะเบิกจ่ายได้ และยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ จะใช้งบประมาณในส่วนนี้ได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่”
.
สำหรับในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของโครงการสนับสนุนกิจกรรมพิเศษหลวงนั้น เอกสารชี้แจงไม่มีรายละเอียดอะไรที่ชัดเจนเลย เขียนมาแค่ 1 บรรทัด เป็นค่าสิ่งก่อสร้างสนับสนุนโครงการพิเศษหลวง 1 โครงการ 935.722 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาสนับสนุนโครงการพิเศษหลวง 1 โครงการ จำนวน 533.6 ล้านบาท ทั้งที่ในหน้าเดียวกัน โครงการอื่นบอกละเอียดถึงขั้นว่ามีการซ่อมโรงจอดรถ 4 ล้านบาท แล้วทำไมโครงการที่ใช้งบประมาณเป็นพันล้านบาทถึงไม่มีการบอกรายละเอียด
.
“งบประมาณที่นำไปใช้ต้องถูกตรวจสอบได้ทุกบาททุกสตางค์ ถ้าไม่สามารถชี้แจงได้ก็จำเป็นต้องตัดทั้งหมด มิเช่นนั้นงบประมาณก้อนนี้จะไม่มีความโปร่งใสเลย ประชาชนจะไม่มีสิทธิรู้เลยว่านำเงินงบประมาณจากภาษีประชาชนไปใช้ทำอะไรบ้าง ไปผ่านมือใครบ้าง เอกชนรายใดได้รับอนุมัติโครงการ” นายปกรณ์วุฒิ กล่าวทิ้งท้าย