ห่วงกระทบอนาคต ‘ครูธัญ’ เผย รัฐล้วงกระเป๋าประกันสังคมรับภาระเยียวยาแทนแสนล้าน จี้ วางแผนระยะยาว เพราะรอบนี้ยังไม่ใช่ ‘ครั้งสุดท้าย’

0
641

ธัญวัจน์​ กมลวงศ์วัฒน์​ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลกล่าวถึงการประกาศล็อคดาวอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่าตนมีความห่วงใยต่อพี่น้องผู้ประกอบการรายเล็กทุกท่านรวมไปถึงกลุ่มอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริการ ศิลปิน นักดนตรี นักเต้น นางโชว์ ที่เคยร่วมยื่นหนังสือเรียกร้องนายกรัฐมนตรีให้ออกมาตราการเยียวยา เนื่องจากอาชีพดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างมาก “โดนปิดก่อน และ เปิดทีหลัง” ตามมติคณะรัฐมตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ได้ออกมาตราการเยียวยาล็อกดาวน์ ใน 10 จังหวัดที่ประกาศล็อคดาวน์ ให้ “อาชีพอิสระ” ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท แต่ขอให้สมัครเข้า “ผู้ประกันตน ม 40” ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยนายนันทชัยกล่าวถึงแพคเกจไหนก็จะมีความคุ้มครองแตกต่างกัน แต่ “ทุกคน” จะได้รับสิทธิเงินเยียวยา

ตนมีความเห็นด้วยอย่างมากที่ “อาชีพอิสระ” ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก จะได้รับเงินเยียวยา แต่มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินของรัฐบาล ว่าการเยียวยาครั้งนี้คงไม่ใช่การทำงาน “ลูบหน้าปะจมูก” ที่ช่วยแค่ครั้งนี้​ และครั้งต่อ ๆไปจะทำอย่างไร บริหารจัดการอย่างไร เพราะเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทางพรรคก้าวไกลได้ชี้แจงแล้วว่า รัฐบาลล้วงลูกกองทุนประกันสังคมไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท และคำถามต่อมาคือ มาตราการครั้งนี้คือการช่วยเหลือหรือการผลักภาระให้กับประกันสังคมหรือไม่ และท่านจะชดเชยหรือมีเงินคืนกลับมาให้จากพระราชกำหนดเงินกู้ห้าแสนล้านหรือไม่ ด้วยเหตุผลเดียวคือ

“นี่ไม่ใช่การเยียวยาครั้งสุดท้าย” อย่างแน่นอน

ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาด้วยการวางแผนระยะยาววางและพร้อมจัดสรรงบประมาณแบ่งคืนให้กับกองทุนประกันสังคม เพื่อให้การเยียวยาครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการผลักภาระและได้หน้าอยู่คนเดียว ท่านต้องไม่ลืมว่าท่านมีเงินกู้ 1 ล้านล้าน และ 5 แสนล้าน และงบประมาณประจำปี 2565 นี้ ประกันสังคมยังถูกตัดงบลงอีก และคิดว่าการบริหารจัดการงบประมาณของท่านดูจะไม่ตอบโจทย์หรือมีความพร้อมระยะยาวที่จะต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในขณนี้​ประกอบกับในขณะนี้อยู่ในช่วงพิจารณางบประมาณแผ่นดิน 2565 ตนเข้าใจว่า ท่านได้ตั้งงบประมาณมาก่อนเกิดวิกฤตในขณะนี้และอาจจะเป็นสภานการณ์ที่ท่านอาจไม่คำนึงถึง แต่คำถามที่เกิดขึ้นและต้องตอบกับประชาชนคือ ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงแบบนี้จะปรับแผนในงบประมาณอย่างไร​ อย่าทำให้การเยียวยานั้นไม่จบสั้น ห้วน และสุดท้ายทิ้งทวนว่า“ช่วยแล้วนะ” อย่ามาขออีก” ดิฉันหวังว่าจะไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้​  ธัญวัจน์กล่าว