ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 65 ตั้งคำถามถึงความสมเหตุสมผลของการใช้งบประมาณกระทรวงการต่างประเทศ โดยกล่าวว่า เห็นใจที่ตัวแทนชี้แจงว่าปีนี้มีการปรับลดงบประมาณลง แต่ยืนยันว่ายังมีเรื่องเชิงโครงสร้างที่เป็นปัญหาทางงบประมาณ อย่างหลักเกณฑ์การตั้งสถานทูต เช่น ประเทศออสเตรเลีย ที่ดูแลคนไทยถึง 100,856 คน แต่มีสถานทูตเพียง 2 แห่ง คือที่สถานกงสุลใหญ่ที่ซิดนีย์ และสถานเอกอัครราชทูตที่แคนเบอร์ร่า
ขณะที่ในเยอรมันนีที่ดูแลชีวิตประชาชน 59,130 คน แต่มีสถานทูตถึง 3 แห่ง คือที่สถานเอกอัตราชทูตที่เบอร์ลิน ,สถานกงสุลใหญ่ที่แฟรงเฟิร์ตและมิวนิค ซึ่งมีระยะห่างกันเพียง 400 กิโลเมตรเท่านั้น ในขณะที่สถานทูตที่ออสเตรเลีย บางพื้นที่เช่นจากเพิร์ทไปแคนเบอร์ร่าระยะทางห่างกัน 3,700 กิโลเมตร
.
นอกจากนี้ ศิริกัญญายังตั้งคำถามถึงการจัดซื้อของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรถประจำตำแหน่ง 12 คัน วงเงิน 44 ล้านบาท (คันละ 3-4 ล้านบาท), ชุดผ้าม่านที่ติดตั้งในห้องรับประทานอาหารที่สถานทูตแฟรงเฟิร์ต 2 ชุด 736,700 บาท ซึ่งซื้อใหม่เพื่อทดแทนของเดิมที่ใช้มา 5 ปี, ตู้แช่ไวน์ที่มะนิลา ฟิลิปปินส์ 255,100 บาท, เครื่องอุ่นจานที่สถานทูตออสโล นอร์เวย์ 147,500 บาท, ค่าปรับปรุงและซ่อมแซมสนามเทนนิสของสถานทูตที่มาดริด ประเทศสเปน 9,604,000 บาท
.
“ดิฉันคิดว่าหลายท่านคงบอกว่าสถานทูตคงต้องสะท้อนความเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเอางบประมาณมาพัฒนาการดูแลคนไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ ดิฉันไปดูการรีวิวสถานทูตไทยในแฟรงเฟิร์ตมีปัญหาคนไทยติดต่อสถานทูตไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่สถานทูตรับสายตอนบ่าย เนื่องจากตอนเช้าเจ้าหน้าที่อ้างว่าต้องทำงานเอกสาร”
.
ประเด็นสุดท้าย ศิริกัญญา ยังขอเหตุผลที่กระทรวงการต่างประเทศลงมติงดออกเสียงกรณีที่สหประชาชาติห้ามขายอาวุธให้กับประเทศเมียนมาร์ ทั้งที่นี่เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นหนทางสู่สันติภาพ ในขณะที่อีก 6 ประเทศในอาเซียนลงมติเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว