หน้าที่ ส.ส.ที่ดีต้องทำอย่างไร ‘สุทธวรรณ’ ไล่ ‘หมอสุกิจ’ กลับไปถาม ‘ประธานชวน’ ชี้การเปิดไทมไลน์ติดเชื้อโควิดในสภาของ ‘ณัฐชา’ คือความรับผิดชอบต่อสังคม

0
712

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล และ ส.ส.จังหวัดนครปฐม กล่าวถึงกรณีที่ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 โดยระบุว่าให้แจ้งไทม์ไลน์​ชัดเจนเนื่องจากได้ระบุว่าอาจจะติดเชื้อจากในสภาฯ หากไม่แจ้งให้ชัดว่าติดจากใครถือว่าไม่มีความรับผิดชอบนั้น
.
นางสาวสุทธวรรณ ระบุว่า นายณัฐชา ได้แจ้งไทม์ไลน์ไปแล้วตามข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมาอยู่สภาเป็นหลัก นี่คือความรับผิดชอบที่จำเป็นต้องแจ้งต่อสาธารณะและสันนิษฐานไปตามนั้น ไม่ได้มีเจตนากล่าวโทษไปที่ใคร เนื่องจากเข้าใจดีว่าสถานการณ์เวลานี้ไม่มีพื้นที่ใดปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ เว้นแต่ ส.ส.คนนั้นจะไม่ปฏิบัติหน้าที่เลย คือ ไม่ลงพื้นที่ หรือไม่ยอมเจอประชาชนที่มาขอเข้าพบ เชื่อว่า ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์เองก็คงไม่ทำเช่นนั้น เราคงไม่อาจมองว่า ส.ส.ที่กำลังทำงานเป็นเรื่องของความหย่อนยานต่อมาตรการควบคุมโรคได้ ขณะนี้ทุกคนในสภาไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ข้าราชการ แม่บ้าน ร้านค้าโรงอาหาร ซึ่งยังคงต้องทำงาน ยังคงต้องเดินทาง และยังคงต้องพบปะผู้คนล้วนมีความเสี่ยงได้ทั้งหมด การที่สัปดาห์ที่ผ่านมาสภาไม่พบผู้ติดเชื้อ อาจไม่ได้หมายความว่าไม่มีผู้ติดเชื้อ เช่นเดียวกับ ส.ส.ณัฐชา หากเขาไม่ตรวจแบบ Rapid Test ตัวตนเองเป็นประจำ ก็ไม่มีทางที่จะรู้ว่าเขาติดเชื้อ และอาจยังคงทำงานเป็นปกติเช่นเดียวกับ ส.ส.ท่านอื่น แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เมื่อพบว่าติดเชื้อก็รีบแจ้งข้อเท็จจริงต่อสภาในทันที เพื่อให้สภาสามารถออกมาตรการควบคุมโรคตามเหมาะสมได้ เช่น การจัดหาชุด Rapid Test มาปูพรมตรวจทุกคนเพื่อให้รายงานผลต่อสภา แต่ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เป็นต้น
.
“ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส.ส.ณัฐชา ไม่ได้เดินทางไปที่อื่น แต่มาทำงานที่สภา เมื่อไล่ตรวจบุคคลที่มาพบในสภาฯ ยังไม่ปรากฎว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล เจ้าหน้าที่พรรค รวมทั้งทีมงานในสำนักงานติดเชื้อ มีเพียงกลุ่มเดียวที่พบเชื้อคือ กลุ่มของทนายความส่วนตัว คือนายพีรณัฐ วงศ์สวัสดิ์ ที่ทำงานด้วยกันในห้องทำงานส่วนตัวที่สภาฯ และคนใกล้ชิดในศูนย์ทนายความก็พบเชื้อเช่นกัน จึงคาดว่าน่าจะติดจากนายพีรณัฐ นี่จึงเป็นความหมายว่าน่าจะติดเชื้อที่สภา ประเด็นที่อยากตั้งคำถามไปยัง หมอสุกิจก็คือ ตัวท่านเอง หรือ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ให้บุคคลภายนอก หรือทีมงานเข้ามาพบเลยหรือจึงสามารถยืนยันเรื่องความปลอดภัยได้ทั้งหมด ดิฉันคิดว่าในสถานการณ์โรคระบาดที่ไม่อาจควบคุมได้หรือการระบาดตั้งแต่ระลอก 3 มานี้ จะต้องทำความเข้าใจให้มากว่าเป็นการระบาดในวงกว้างและมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากจนยากที่จะสืบค้นโรคได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการรีบค้นหาคัดกรองให้เจอผู้ติดเชื้อให้เร็วและมากที่สุด ไม่ใช่การกล่าวหาเพ่งโทษผู้ติดเชื้อว่าติดมาจากใคร หรือจะทำให้สภาเสียหายหรือไม่ ยิ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรก็ควรมีหน้าที่ทำความเข้าใจในเรื่องนี้ต่อประชาชน เพื่อให้เขามีความกล้าที่จะเปิดเผยเมื่อได้รับเชื้อ ไม่ใช่ทำให้เป็นที่รังเกียจ กลายเป็นการปกปิดอาการและประวัติ ซึ่งจะยิ่งกลายเป็นผลเสียต่อสถานการณ์ทางสาธารณสุขให้แย่ลงไปอีก”
.
ทั้งนี้ สำหรับภาระงานในสัดส่วน กมธ. ที่มี นายณัฐชาเป็นประธาน ยืนยันว่า เนื่องจากยังมีวาระจำเป็นต้องประชุมเพราะมีข้อร้องเรียนและมีความเดือดร้อนของประชาชนตกค้างอยู่ จำเป็นต้องรีบสะสางให้เสร็จก่อนงดประชุม ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ มีการขอความร่วมมือให้งดประชุมแล้วก็งดได้ดื้อๆ สัปดาห์ที่ผ่านมามี กมธ.หลายคณะนัดประชุมเป็นนัดสุดท้ายเพื่อเก็บตก และเอาการร้องเรียนของประชาชนที่สำคัญมาพิจารณาก่อน เพื่อไม่ให้ตกค้าง นี่คือความรับผิดชอบของผู้แทนราษฎร จึงอยากฝากถามไปยัง นพ.สุกิจ กลับไปว่า จะให้งดประชุมโดยวางความทุกข์ร้อนของประชาชนคาไว้แบบนั้นหรือ เรื่องนี้ถ้า นพ.สุกิจ ไปปรึกษาท่านประธานชวน ก่อนมาแถลงก็น่าจะได้คำตอบว่า ผู้แทนราษฎรที่ดีต้องทำอย่างไร

ในอีกประเด็นหนึ่ง นางสาวสุทธววรณ ย้ำว่า การที่ ส.ส.ณัฐชา ฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มแล้ว แต่ก็ยังติดได้ เป็นปัญหาเดียวกับที่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนหลายคนเจอ จึงฝากถามต่อไปยังรัฐบาลด้วยว่า ถึงเวลาที่จะยอมรับแล้วใช่หรือไม่ ว่า Sinovac ไม่มีประสิทธิภาพที่จะรับมือโควิด 19 ในสถานการณ์ปัจจุบันได้ และเมื่อเป็นเช่นนี้ หมายความว่า ขณะนี้ ส.ส.ในสภาเป็นจำนวนมากซึ่งได้รับวัคซีนชิโนแวค จึงยังมีความเสี่ยงต่อทั้งการติดเชื้อและกระจายเชื้อ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แทนราษฎรทั้งในสภาและนอกสภา เมื่อเป็นแบบนี้จึงต้องฝากถาม นพ.สุกิจ ไปยัง ประธานชวนด้วยว่า ทางสภาจะมีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ต่อไปอย่างไร หรือจะรอให้มีการติดเชื้อครั้งหนึ่งก็งดประชุมกันหมดไปสองสัปดาห์แบบนี้เรื่อยไป
.
“สำหรับอาการล่าสุดของ ส.ส.ณัฐชา พบว่าอาการปวดหัวลดลงแล้ว แต่ยังคงตาแดงสองข้างและคัดจมูก แต่ในวันนี้เขาได้ให้แล็บจากโรงพยาบาลเอกชนไปตรวจโควิดให้เจ้าหน้าที่รัฐสภาที่ทำงานด้วยกันใกล้ชิด 21 คน เพื่อสร้างความมั่นใจ โดย ส.ส.ณัฐชา เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท ทุกคนไม่พบการติดเชื้อ แต่ยังคงให้กักตัวรอดูอาการต่อไป” นางสาวสุทธวรรณ ระบุ