เกศปรียา แก้วแสนเมือง รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ตั้งข้อสังเกต ว่า ทำไมรัฐบาลถึงต้องเจาะจงเอางบประมาณหลายหมื่นล้านบาทไปจัดซื้อวัคซีนเพียง 2 ยี่ห้อ มาเพื่อการต่อสู้กับสถานการณ์โรคระบาด รัฐบาลไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนมาก่อนเลยเหรอ หรือว่ารู้ประสิทธิภาพของวัคซีนแต่จงใจจัดซื้อเพียง 2 ยี่ห้อ เพราะวาระซ่อนเร้น
จนมาถึงวันนี้ตนเห็นเอกสารสรุปการประชุมจากสื่อ เลยถึงบางอ้อว่า รัฐบาลรู้ว่าวัคซีนที่สั่งซื้อมาไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน แต่ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เลยไม่ยอมฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพป้องกันได้ดีให้กับบุคลากรด่านหน้าอย่างกลุ่มในวงการแพทย์ ที่รัฐบาลออกมาหาผลประโยชน์ว่าต้องให้กำลังใจนักรบชุดขาวเป็นระยะเวลาจะสองปีแล้ว
พฤติกรรมแบบนี้ คือ เหมือนคนปากหวานก้นเปรี้ยว พูดเอาดีแต่แท้จริงไม่เคยปรารถนาดีกับใคร แม้แต่คนที่ช่วยเหลือเสี่ยงตายเพื่อตนเองและประเทศชาติอย่างนักรบชุดขาว แทนที่จะฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพป้องกันเชื้อโรคได้ให้ เพราะเป็นผู้เสียสละอยู่ด่านหน้ามีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคสูง กลับตัดสินใจรักษาอำนาจตนเองต่อไป เพราะไม่รู้จะแก้ตัวให้วัคซีนชิโนแวคที่ตัดสินใจสั่งซื้อมาฉีดจนเป็นวัคซีนหลักที่คนไทยได้รับเวลานี้
ถ้าคุณมีวิธีคิดที่เห็นแก่อำนาจและประโยชน์ส่วนตน โดยอำมหิตกับประชาชนทั้งประเทศ เปรียบได้กับการเจตนาพยายามฆ่าประชาชนไทย คุณไม่สมควรเป็นตัวแทนประชาชนไทยแล้ว
นอกจากจงใจพยายามฆ่าประชาชน รัฐบาลยังบริหารวัคซีนผิดพลาดร้ายแรง กรณีไปซื้อวัคซีนที่ประสิทธิภาพไม่ดีเท่าที่ควรมาฉีดให้ประชาชน ผลที่ตามมามันคือการทิ้งเงินเป็นหลายหมื่นล้านบาท (ที่สำคัญเงินเหล่านั้นเป็นเงินของคนทั้งชาติ) โดยที่เศรษฐกิจก็ยังคงเดินหน้าไม่ได้ ต้องปิดต่อเพราะควบคุมโรคไม่ได้
จนปัจจุบันภาคเอกชนทนไม่ไหวต้องลงทุนซื้อวัคซีนคุณภาพทางเลือกที่สามารถป้องกันโรคได้มาฉีดเอง ตีเป็นมูลค่าตามข่าวจากยอดจองวัคซีน ทางเลือก ประมาณ 9 ล้านคน คิดค่าวัคซีนคนละ 3000 บาท ก็คิดเป็นมูลค่าประมาณ 27,000,000,000 บาท ประชาชนต้องลงทุนกันเองขนาดนี้เพื่อต้องการให้เศรษฐกิจกลับมาทำมาหากินได้ แบบนี้เราจะต้องมีรัฐบาลแย่ๆที่บริหารไม่ได้เรื่องคณะนี้ไว้ทำอะไร
อยากบอกว่าถ้าพวกคุณกระหายอยากมีอำนาจ การตัดสินบริหารจัดการต้องมองภาพรวม จริงอยู่อาจจะมีวาระซ่อนเร้นในการใช้งบประมาณมาโดยตลอด แต่เรื่องที่ควรจะคิดได้ว่า ถ้ายึดเอาความเห็นแก่ตัวสูงสุดของกลุ่มตนเป็นที่ตั้งแล้วประเทศชาติพังเละเทะขนาดนี้ควรตัดสินใจทำมั้ย หรือความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนสูงจนหน้ามืดตามัว