นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษา การขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันโครงการดังกล่าว ได้รับการตอบรับจากคนในพื้นที่และนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก และมั่นใจว่าหากโครงการนี้เกิดขึ้นจริง จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และยกฐานะรายได้ของประเทศได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้นักลงทุนจากทั่วโลก ให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการนี้ เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของพื้นที่ สามารถเชื่อมต่อกับโลกและลดค่าใช้จ่ายในการขนถ่ายสินค้าทางเรือได้มาก โครงการดังกล่าวจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ระดับสูงในอนาคต หากโครงการนี้แล้วเสร็จ ไทยจะก้าวเป็นประเทศมหาอำนาจ ด้านอุตสาหกรรมและการขนส่ง 1 ใน 8 ของโลก
นายพิเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวมีพื้นที่เชื่อมติดกัน 5 จังหวัด คือ กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลาและนครศรีธรรมราช ซึ่งจะมีการประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ครบวงจร คาดว่าจะใช้งบประมาณในการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 9 ล้านล้านบาท ทั้งนี้มีนักลงทุนทั้งจีน ยุโรป อินเดีย ให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมทุนในโครงการนี้ เรื่องการลงทุนไม่มีปัญหาขึ้นอยู่กับว่าจะทำเมื่อใด
“ หากประเทศไทยดำเนินโครงการนี้แล้วเสร็จ จะใช้เวลาในการดำเนินการ 5 ปี หากประสบความสำเร็จ คาดว่าจะสร้างรายได้ ให้กับประเทศไทยไม่ต่ำกว่าปีล่ะ 4 ล้านล้านบาท ทั้งนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญ เตรียมที่จะนำเข้าหารือ ในที่ประชุมสภาก่อนส่งให้รัฐบาลเพื่อพิจารณาไปภายในปีนี้”นายพิเชษฐ์ กล่าว