วันที่ 15 มีนาคม 2565 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธ์โอมิครอน กระทบกับการทำมาหากินของประชาชนโดยตรง พ่อค้าแม่ค้า ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่ายอดขายลดลง ลูกค้าไม่กล้าออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า เพราะกลัวติดเชื้อ ทั้งอาหารการกิน รวมทั้งสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า ครื่องแต่งกาย ยอดขายตกต่ำทุกรายการ ปัจจัยหลัก คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไร้สามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง หากอยากทราบว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้นหรือเลวลง แนะนำให้พลเอกประยุทธ์ไปเดินแถวย่านการค้าประตูน้ำ ศูนย์ค้าส่งเสื้อผ้ากลางกรุง ทุกวันนี้ไม่ต่างจากเมืองร้าง ไร้คนเดิน กระทบระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างรุนแรง
นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ ยังล้มเหลวในการแก้ปัญหาประเทศ รวมทั้งละเลยที่จะปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ตลอด 7 ปี รัฐบาล เห็นชัดว่ารัฐบาลเกรงใจนายทุนใหญ่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ แต่ไม่เกรงใจประชาชน ปล่อยให้นายทุนปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ตามใจชอบ ทุกวันนี้แม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังปรับราคา นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์กลับปล่อยให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันสร้างผลกำไรมหาศาล บนคราบน้ำตาประชาชน
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ล้มเหลว ในการปกป้องประชาชนให้ปลอดภัยจากไวรัสโควิด เพราะการติดเชื้อของประชาชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นมา ไทยมีจำนวนผู้ป่วยสะสมสูงถึง1,003,262 ราย ถือเป็ตัวเลขที่สูงมาก ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ ควรเร่งศึกษามาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธ์BA.2.2 โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธ์ใหม่ จำนวน 4 ราย เข้าข่ายสายพันธุ์ย่อย BA2.2 เป็นต่างชาติ 1 ราย คนไทย 3 ราย ซึ่งพบการกลายพันธุ์ในตำแหน่งเดียวกันกับที่พบในประเทศฮ่องกง โดยทั้ง 4 เป็นการพบจากระบบเฝ้าระวังตรวจตราสายพันธุ์ในประเทศ
“รัฐบาลต้องเร่งหามาตรการในการป้องกันอย่างดีที่สุด เพราะหากมาทำอะไร อาจเป็นภัยร้ายในอนาคต เพราะการระบาดใหญ่ระลอกล่าสุดทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน รัฐบาลไม่ควรประมาท ควรมีการเตรียมระบบสาธารณสุขให้พร้อมหากล่าช้าเชื่อว่าไวรัสสายพันธ์ใหม่จะสร้างหายนะใหญ่ในประเทศไทย”นายสงคราม กล่าว
